1/10/51

ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือเรา

พระดำรัสของพระเยซูมากมายเป็นการท้าทายและแรงบันดาลใจ เท่าที่ข้าพเจ้าพอจะนึกได้เห็นจะไม่มีถ้อยคำใดมีฤทธิ์อำนาจเกินที่ว่า “ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือเรา”

ก่อนที่พระเยซูจะสิ้นพระชนม์ พระองค์ตรัสดังนี้ว่า

“แต่นี้ไปเราจะไม่สนทนากับท่านทั้งหลายนานเช่นนี้อีกเพราะว่าเจ้าโลกจะมา ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือเรา แต่เราได้กระทำตามที่พระบิดาได้ทรงบัญชาเราเพื่อโลกจะได้รู้ว่าเรารักพระบิดา”(ยอห์น 14:30-31)


พระเยซูตรัสด้วยความมั่นใจเต็มที่ว่า “ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือเรา” ท่านอยากมีความมั่นใจแบบนั้นบ้างไหมที่จะพูดว่า
“ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือฉัน”

เมื่อเป็นเรื่องของทัศนคติ ทัศนคติของเราอยู่ภายในอำนาจของเราเอง แต่บ่อยครั้งเหลือเกินที่เราหมดแรงและยอมแพ้ต่อศัตรู เรายอมให้ทัศนคติของเราเปลี่ยนจากความรู้สึกเศร้าใจไปกับความทุกข์ของผู้อื่นไปเป็นความเฉยเมยไม่แยแส จากการมีความหวังเต็มเปี่ยมไปเป็นความสิ้นหวัง จากการมีความเมตตากรุณาไปเป็นการตัดสิน (ผู้อื่น) เมื่อเรายอมให้ผู้นั้นควบคุมทัศนคติของเรา เราก็ไม่สามารถคิดถึงอนาคต แต่เรากลับหวนนึกถึงความผิดพลาดในอดีต และสูญเสียความมั่นใจไปง่ายๆ ในความสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะพูดว่า ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจเหนือทัศนคติของฉัน แต่...

เมื่อเป็นเรื่องของความอยากได้ใคร่ซื้อ ไฟปรารถนาดูเหมือนดับไม่ได้ กลไกล่าสุดกวักมือและเรียกหาอยู่ตรงโน้น ผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ล่าสุดกระซิบอยู่ข้างหูตรงนี้ คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สัญญาว่าทำได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ รถยนต์คันใหม่ให้คำมั่นว่าจะทำให้เราดูดีและน่านับถือมากขึ้น บ้านหลังใหญ่ในกลุ่มเพื่อนบ้านฐานะดีจะพิสูจน์ว่าเราประสพความสำเร็จอย่างแท้จริง เราคงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะพูดว่า

ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจเหนือทัศนคติของฉัน แต่...

เมื่อเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตตามใจตัวเอง พระเจ้าทรงมิได้กระทำการเร็วหรือเจาะจงอย่างที่พระองค์ทรงสมควรจะทำ เมื่อพระองค์ทรงทำอย่างที่เราต้องการ เราก็มีความชื่นชมยินดีกับชีวิต เมื่อพระองค์ทรงนิ่งเฉยอยู่ เราก็จะโกรธและไม่พอใจอย่างรุนแรง เมื่อชีวิตหักเห เรามิได้คาดหวัง คาดหมาย หรือให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก เรากลับเก็บความรู้สึกไว้ลีกๆ ในใจ ไม่พึ่งพาพระองค์ และเฉยเมย เมื่อพระเจ้าทรงมิได้ตอบคำอธิษฐานอย่างที่เราคิดไว้ เราก็สงสัยว่าพระองค์ทรงเป็นห่วงเราจริงล่ะหรือ เราเริ่มไม่แน่ใจในความสัตย์ซื่อของเราเอง และมีปัญหาคาใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระองค์

“ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือฉัน”

เราอยากให้มันเป็นจริงอย่างนั้น เราอยากให้เราตัดสินใจแน่วแน่ที่จะแสดงให้โลกรู้ว่า “ฉันรักพระบิดาและจะกระทำตามที่พระบิดาได้ทรงบัญชา” ทว่า...มิได้เป็นเช่นนั้นเพราะผู้นั้นมีสิทธิอำนาจเหนือฉัน

ช่างน่าเศร้าอะไรเช่นนี้!

สิทธิอำนาจที่มีเหนือเราไม่ใช่จะสิ้นหวังเสียทีเดียว มันสามารถถูกทำลายได้ เราสามารถเอาชนะมันได้ สักวันเราจะทำ จริงๆ แล้ววันคืนแห่งชัยชนะมีมากกว่าวันคืนแห่งความพ่ายแพ้ แต่เพราะผู้นั้นมีสิทธิอำนาจเหนือเรา เราจึงจำวันคืนแห่งความพ่ายแพ้ได้ดีกว่าวันคืนแห่งชัยชนะ

นั่นเองที่เป็นตัวการสำคัญ!

“ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือฉัน” (ให้ทุกคนมั่นใจเช่นนั้น)

ตอนนี้...วินาทีนี้...ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจเหนือฉัน วันนี้อาจเป็นวันแห่งชัยชนะ พรุ่งนี้ล่ะ พรุ่งนี้...ฉันจะพยายามกระทำตามที่พระบิดาได้ทรงบัญชาไว้ และฉันจะพยายามอธิษฐานเมื่อสิ้นวันว่า “ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือฉัน”

เอเมน!

สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น