มัวแต่สนุกอยู่กับงานจนเพลินไม่ทันตั้งตัวเลยก็ผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้ว เป็นจริงอย่างที่เขาพูดกันว่า “เวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน” เมื่อปีใหม่เวียนมาถึง เราทุกคนคงมีความตั้งใจหลายๆอย่างที่อยากทำให้ชีวิตของเราในปีใหม่นี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เราคงอยากจะทำหลายๆอย่างที่เราไม่ได้ทำ หรือแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆในปีที่ผ่านไปและทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมในปีใหม่นี้ เราคงอยากจะสานฝันที่ยังไม่เป็นจริงของเราให้เป็นจริงขึ้นมา เราคงอยาก….. รายการของเราคงมีต่อไปเรื่อยๆไม่มีวันจบตามความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนังของเรา แต่ข้าพเจ้ายังสงสัยอยู่ว่าจะมีสักกี่คนที่มีความตั้งใจที่จะเข้าใกล้พระเจ้าให้มากขึ้น อยากจะประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าและเรา (หรือแม้แต่ระหว่างพี่น้องคริสเตียนด้วยกัน) อยากจะมีส่วนในงานรับใช้มากขึ้น อยากจะมีส่วนในการประกาศมากขึ้น อยากจะแสดงความรักของพระเจ้าให้ปรากฏแก่คนทั้งหลายด้วยคำพูดและการกระทำของเราที่บ่งบอกว่าเราเป็นบุตรของพระเจ้า และที่สำคัญอยากจะใช้เวลาในการอธิษฐานให้มากๆยิ่งขึ้น
ให้เราร่วมแรงร่วมใจกันที่จะประกาศข่าวประเสริฐเพื่อช่วยเหลือดวงวิญญาณอีกนับล้านๆดวงให้รอดกันเถอะ ท่านคงจะไม่เห็นแก่ตัวที่จะรอดไปคนเดียวหรอกนะ เวลาของเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว พระเจ้าใกล้จะเสด็จมาแล้ว อย่ามัวนิ่งนอนใจอยู่เลย จงเตรียมพร้อม และจงออกไปเก็บเกี่ยววิญญาณได้แล้ว
ข้าพเจ้าจึงอยากจะเสนอกฏทอง 5 ข้อให้แก่ท่านทั้งหลายไว้เพื่อพิจารณาถ้าอยากจะมีความสุขในโลกใบที่บูดเบี้ยวและเสื่อมทรามลงทุกวันๆใบนี้
ข้าพเจ้าหวังว่าคงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะลองนำไปปฏิบัติดู เพราะเมื่อเรามีชีวิตฝ่ายร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของเราก็จะเข้มแข็งตามไปด้วย และเมื่อนั้นแหละที่เราจะมีแรงเพื่อทำงานรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
กฎข้อ 1 อย่าส่ำสมความเกลียดชังไว้ในใจ
“ความเกลียดชังเร้าให้เกิดความวิวาท” (สุภาษิต 10:12ก)
กฎข้อ 2 อย่าสร้างความกระวนกระวายใจ
“มีใครในพวกท่านโดยความกระวนการวาย อาจต่อชีวิตให้ยาวออกไปอีกสักศอกหนึ่งได้หรือ” (มัทธิว 6:27)
กฎข้อ 3 จงใช้ชีวิตแบบง่ายๆ
“จงอยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน” (1 เธสะโลนิกา 5:13)
กฎข้อ 4 จงให้มากขึ้น
“จงให้เขา แล้วท่านจะได้รับด้วย (ลูกา 6:38)
“จงให้ด้วยใจกว้างขวาง” (โรม 12:8)
กฎข้อ 5 จงคาดหวังให้น้อยลง
“เจ้าทั้งหลายหวังได้มาก แต่นี่แน่ะก็ได้น้อย” (ฮักกัย 1:9)
เราคงไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปและแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆของเราได้แล้วล่ะ แต่เราสามารถจะทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างไม่ผิดพลาดอีกถ้าเราจะพึ่งพาพระเจ้าให้มากขึ้น
พระเจ้าไม่ได้ทรงสัญญากับเราว่า วันคืนของเราจะไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้นเลย เสียงหัวเราะของเราจะไม่มีความโศกเศร้าซ่อนอยู่ด้วย จะไม่มีเมฆหมอกตั้งเค้าในชีวิตของเราเลย แต่พระองค์ทรงสัญญาว่าจะทรงเสริมกำลังของเรา จะทรงซับน้ำตาให้เรา และจะทรงให้ความสว่างแก่เราในการดำเนินชีวิต
ความผิดหวังในชีวิตที่เราต้องเผชิญอยู่นั้นเปรียบเสมือนถนนที่ขรุขระซึ่งทำให้เราต้องลดความเร็วของรถลงและเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เช่นเดียวกัน เมื่อเราผิดหวังเราจะหยุดตัวเองสักพัก คิดใคร่ครวญถึงเหตุถึงผลของสิ่งที่เกิดขึ้น และใช้ความระมัดระวังที่จะไม่ให้เกิดความไม่สมหวังหรือข้อผิดพลาดขึ้นอีก และเมื่อเราผ่านอุปสรรคขวากหนามนั้นมาได้แล้ว เราจะเห็นพระคุณของพระเจ้ามากขึ้นสำหรับหนทางราบเรียบข้างหน้าที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้ อย่าอ้อยอิ่งอยู่กับความทุกข์ระทมใจให้นานนักเลย จงเข้มแข็ง แสวงหาพระเจ้า และสู้ต่อไป
เมื่อท่านไม่ได้สิ่งที่ท่านปรารถนา ขอให้อยู่เฉยๆ และจงชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีกว่าให้แก่ท่าน
เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับท่าน ไม่ว่าจะดีหรือเลว ขอให้คิดถึงความหมายของมัน เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นต้องมีสาเหตุ และผลที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นบทเรียนสอนให้เรารู้จักที่จะหัวเราะมากขึ้นอีกนิดและร้องไห้น้อยลงอีกหน่อย เช่นเดียวกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ในตัวท่าน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์
หวังว่าท่านจะใช้ชีวิตกับพระเจ้าวันต่อวันอย่างมีความหมายทุกวันในปี 2002
สิธยา คูหาเสน่ห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น