13/2/55

'รัก' คำสั้นๆ

พระคัมภีร์ย้ำว่าชีวิตของเราต้องตั้งอยู่บนความรัก พระบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เราพบในพระคัมภีร์คือให้รักพระเจ้าและรักกันและกัน

มัทธิว 22:37-40 กล่าวว่า พระเยซูทรงตอบเขาว่า 'จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน' และด้วยสุดความคิดของท่าน นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ 'จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง' ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้

พระคัมภีร์ย้ำแล้วย้ำอีกให้รักเพื่อนบ้าน กาลาเทีย 5:14 บอกว่า เพราะว่าธรรมบัญญัติทั้งสิ้นนั้นสรุปได้เป็นคำเดียว คือว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง 
 
ยอห์น 13:33-35...ที่ที่เรากำลังจะไปนั้น พวกท่านไปไม่ได้ เราให้บัญญัติใหม่ไว้กับพวกท่าน คือ ให้รักซึ่งกันและกัน เรารักพวกท่านมาแล้วอย่างไร ท่านก็จงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น ถ้าท่านรักกันและกัน ดังนี้แหละทุกคนก็จะรู้ว่าท่านเป็นสาวกของเรา

คริสเตียนมีประสบการณ์ชีวิตผ่านทางความสัมพันธ์กับพระเจ้าซึ่งเน้นเรื่องความรักว่าเป็นพลังที่เป็นตัวกำหนดธรรมชาติของเรา

จึงมีคำถามที่น่าสนใจว่าความรักเกิดขึ้นเองอย่างไม่ตั้งใจหรือว่าเกิดขึ้นตามการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่กันแน่ กระนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อว่าไม่มีอะไรที่น่าเรียนรู้เกี่ยวกับความรัก แต่คนก็ตระหนักว่าความรักนั้นสำคัญ มิเช่นนั้นคงไม่มีการเรียกร้องหาความรักกัน เราคงรับรู้ถึงความหิวโหยความรักได้จากบทเพลง ภาพยนตร์ และนวนิยายต่างๆ

แต่พระคัมภีร์แสดงให้เห็นว่าความรักเป็นประสบการณ์การเรียนรู้และให้คำแนะนำไว้มากมายเกี่ยวกับ 'ความรัก' บางทีข้อพระวจนะที่พูดถึงความรักได้อย่างลึกซึ้งที่สุดคงเป็น 1 โครินธ์ 13:4-7 ที่เขียนไว้ว่า ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ

จากข้อพระวจนะข้างต้นจะเห็นว่าผู้ที่รักต้องอยากให้ผู้ที่ถูกรักได้สิ่งที่ดีที่สุด แม้ว่าการให้นั้นหมายถึงการเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนก็ตาม ขอให้สังเกตข้อ 4 และ5 เป็นพิเศษ ความรักนั้นก็อดทนนาน และมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง

พระคริสต์ทรงให้แบบอย่างของความถ่อมใจที่กอปรด้วยความรักไว้ในวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา พระองค์ทรงกระทำไว้เป็นแบบอย่างซึ่งปรากฏอยู่ใน ยอห์น 13:14, 15 เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ยังล้างเท้าของพวกท่าน ทานก็ควรล้างเท้าของกันและกันด้วย

พระราชกิจขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าย้ำให้เห็นถึงความถ่อมพระทัยของพระองค์และชี้ให้เห็นว่าความถ่อมใจเป็นสิ่งที่จะขาดเสียมิได้ต่อการแสดงออกถึงความรัก ความถ่อมพระทัยของพระองค์มองข้ามการเป็นมนุษย์และการถูกตรึงที่กางเขน ความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่ ไร้ขีดจำกัด และมีพร้อมอยู่เสมอ พระองค์ทรงเป็นความรัก

พระองค์ทรงรักโลก พระองค์ทรงรักสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง พระองค์ทรงรักท่าน พระองค์ทรงรักทุกคน เมื่อเราได้รับความรักจากพระองค์เช่นนี้ ข้าพเจ้ามั่นใจว่าเราทุกคนมีความรักของพระองค์มากพอที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่น ยิ่งให้มาก ก็ยิ่งได้รับมาก นี่เป็นการท้าทายของข้าพเจ้า ลองทำดูสิ!

*ข้อพระคัมภีร์จากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน

สิธยา คูหาเสน่ห์