1/4/53

อีสเตอร์อีกครั้ง

อีกโอกาสหนึ่งที่คริสตชนจะคิดและไตร่ตรองถึงความรักใหญ่ยิ่งหาที่เปรียบมิได้ของพระเจ้าก็เวียนมาถึงในเดือนเมษายน นั่นคือ การเฉลิมฉลองวันคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ น่าเสียดายที่บางคนให้ความสำคัญต่อวันคริสตมาสมากกว่า ข้าพเจ้าคิดว่าอาจเป็นเพราะการเฉลิมฉลองที่น่ารื่นเริงสำหรับเทศกาลนั้นก็เป็นได้ แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นว่าการคืนพระชนม์หรือวันอีสเตอร์น่าจะมีความสำคัญต่อฝ่ายวิญญาณของเรามากกว่า เพราะนั่นเป็นการยืนยันว่าพระเยซูคริสต์ทรงมีชัยเหนือความตาย การคืนพระชนม์ของพระองค์เป็นการแสดงถึงชีวิตนิรันดร์ซึ่งทุกคนที่เชื่อจะได้รับ และยังเป็นการชี้บ่งถึงความเป็นจริงของพระราชกิจที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำและทรงสั่งสอนในช่วงสามปีแห่งพันธกิจของพระองค์บนโลก ถ้าพระเยซูคริสต์มิได้สิ้นพระชนม์บนกางเขน ถ้าพระองค์มิได้คืนพระชนม์ พระองค์ก็จะทรงถูกนับว่าเป็นเพียงอาจารย์สอนศาสนาคนหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้น การคืนพระชนม์ของพระองค์เป็นการพิสูจน์ที่แย้งไม่ได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระองค์ทรงมีชัยเหนือความตายอย่างแท้จริง
ด้วยเหตุนี้ อีสเตอร์จึงเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุด
ผู้เชื่อจะได้รับชีวิตใหม่หลังจากที่ตายจากโลกนี้แล้ว การเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์เป็นการเฉลิมฉลองความเชื่อนี้แหละ 
ข้าพเจ้าได้อ่านเรื่องราวหนึ่งซึ่งน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมากจึงเห็นสมควรที่จะแบ่งปันไว้ ณ ที่นี้
สามีคนหนึ่งเล่าให้ภรรยาฟังถึงเรื่องราวที่คุณพ่อเล่าให้ฟังเมื่อเขาอายุแปดปีว่า วันหนึ่งเมื่อไปตกปลากับคุณพ่อก็ได้ยินเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับต้นสน คุณพ่อเล่าให้เขาฟังว่าต้นสนรู้ว่าเมื่อใดเป็นเทศกาลอีสเตอร์ ภรรยาก็งงกับคำพูดของสามี จึงเร่งเร้าให้เขาเล่าต่อ
สามีเล่าต่อว่าคุณพ่อบอกเขาว่าต้นสนเริ่มแตกยอดก่อนวันอีสเตอร์หลายสัปดาห์ ถ้าดูยอดต้นสนสองสัปดาห์ก่อนวันอีสเตอร์ก็จะเห็นยอดอ่อนสีเหลือง เมื่อเข้าใกล้วันอีสเตอร์ ยอดที่สูงที่สุดจะแตกออกเป็นรูปกางเขน เมื่อถึงวันอาทิตย์ที่เป็นการเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์ ก็จะเห็นต้นสนส่วนใหญ่มียอดอ่อนเป็นรูปกางเขนบนยอดที่สูงที่สุดของมัน 
ต้นสนพร้อมที่จะเฉลิมฉลองวันคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์แล้ว ท่านล่ะพร้อมหรือยัง

สิธยา คูหาเสน่ห์