1/10/52

ปล่อยวางความแค้นเคืองใจ

ความแตกแยกที่เกิดขึ้นในหมู่พวกเราอาจเกิดจากเรื่องเล็กน้อย เช่น คำพูดที่พูดออกไปโดยไม่คิด คำวิพากษ์วิจารณ์ การกล่าวหา ความเคืองใจ เป็นต้น เมื่อสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความไม่พอใจที่นำไปสู่การแตกแยกแล้ว มันยากที่ประสานรอยร้าวให้กลับมาดีเหมือนเดิม

ทางแก้คือ การปล่อยวาง ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าการฝึกปล่อยวางความแค้นเคืองใจเล็กๆ น้อยๆ แต่หากต้องการรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาวแล่วล่ะก็ การปล่อยวางเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ การไม่ยอมให้มีความขมขื่นเกิดขึ้นทำคุณให้อย่างมาก

แต่มันเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่าย ทว่าก็ไม่ยากเกินกว่าจะทำ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ อธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้าสิ แล้วท่านจะพบว่ามันเป็นไปได้ อย่าปล่อยให้ความแค้นเคืองใจเกาะกุมจิตใจของเราจนทำลายความสัมพันธ์ที่ดีไป แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานสักหน่อยก็ยังดีกว่าที่จะไม่พยายามเสียเลย

เรื่องราวต่อไปนี้คงเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ให้แง่คิดแก่ท่านได้ อ่านแล้วลองย่อย จากนั้นลองสำรวจดูว่า
ท่านมีความแค้นเคืองใจกับใครบ้างไหม ท่านปล่อยให้มันทำลายความสัมพันธ์มานานแค่ไหนแล้ว ถึงเวลาปล่อยวางหรือยัง

มีเรื่องเล่าว่าพ่อค้าคนหนึ่งมีลูกชายฝาแฝด ลูกทั้งสองคนช่วยธุรกิจในห้างสรรพสินค้าที่พ่อเป็นเจ้าของ เมื่อพ่อตาย ร้านนั้นก็ตกเป็นของลูกชายทั้งสอง

ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีตลอดมา จนกระทั่งวันหนึ่งธนบัตรใบหนึ่งหายไป เพราะหนึ่งในพี่น้องฝาแฝดคู่นี้วางเงินนั้นไว้ที่เครื่องคิดเงินและเดินออกไปนอกร้านกับลูกค้าคนหนึ่ง เมื่อเขากลับมา ธนบัตรใบนั้นก็หายไปเสียแล้ว

เขาจึงถามคู่แฝดของเขาว่าเห็นเงินที่วางไว้ตรงเครื่องคิดเงินหรือไม่ แต่คู่แฝดของเขาตอบว่าไม่เห็น

แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดซักถาม เขาไม่ยอมปล่อยให้เรื่องผ่านไปแบบนี้ เขาพูดว่าเงินจะหายไปเฉยๆ ได้อย่างไร และบอกว่าคู่แฝดของเขาต้องเห็นธนบัตรใบนั้นแน่นอน ในน้ำเสียงของเขาบอกเป็นนัยว่าคู่แฝดนั่นแหละเป็นคนเอาไป ตอนนี้ทั้งสองคนก็ตอบโต้กันด้วยอารมณ์ หลังจากนั้นก็เกิดความแค้นเคืองใจต่อกัน

ไม่นานนักความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้ก็ร้าวฉานเกินเยียวยาและไม่พูดกัน ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าคงทำงานร่วมกันไม่ได้แล้ว ดังนั้นร้านค้าแห่งนั้นจึงถูกแบ่งเป็นสองร้าน ความไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นนานถึงยี่สิบปี ความขมขื่นก็มีมากขึ้นในใจของคนทั้งสองและมีผลกระทบต่อครอบครัวและชุมชนในวงกว้าง

วันหนึ่งมีชายคนหนึ่งขับรถยนต์มาจากอีกรัฐหนึ่งมาแวะที่ร้าน เขาเดินเข้าไปในร้านและถามเสมียนประจำร้านว่าอยู่ร้านนี้มานานเท่าไรแล้ว และเมื่อได้รับคำตอบว่าเขาอยู่ที่ร้านนี้มาตลอดชีวิตของเขา เขาจึงเล่าว่ายี่สิบปีก่อนเขานั่งรถไฟบรรทุกสัมภาระมาที่เมืองนี้ เขาไม่ได้รับประทานอาหารมาสามวันแล้ว และเข้ามาที่ร้านนี้ทางประตูหลังและเห็นธนบัตรใบหนึ่งวางอยู่ที่เครื่องคิดเงิน เขาจึงหยิบมันไป เขาพยายามลืมเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ก็ทำไม่ได้ เขารู้ว่ามันเป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเขาต้องกลับมาเพื่อขอการอภัยสำหรับความผิดของเขา

แขกแปลกหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนที่เขาพูดด้วยมีน้ำตาเอ่อคลอตา และบอกว่าให้ไปเล่าเรื่องราวเดียวกันนี้กับชายในร้านที่อยู่ติดกัน เมื่อเขาทำตามคำขอ ความประหลาดใจของเขาก็เพิ่มทวีขึ้นเมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่หน้าตาคล้ายกันมากสองคนกอดกันและร้องไห้

ความร้าวฉานระหว่างพี่น้องคู่นี้ได้รับการแก้ไขเมื่อเวลาผ่านไปยี่สิบปี กำแพงที่แยกทั้งคู่ออกจากกันด้วยความแค้นเคืองใจถูกทำลายลงแล้ว


น่าเสียดายที่ต้องใช้เวลานานถึงยี่สิบปีสำหรับการคืนดีกัน แต่ก็ยังดีกว่าที่จะแค้นเคืองกันจนตายจากกัน มิใช่หรือ

สิธยา คูหาเสน่ห์