13/11/55

ความดีไม่สูญหาย

ข้าพเจ้าอ่านพบเรื่องราวนี้และอยากจะแบ่งปันให้อ่านกัน

หญิงคนหนึ่งอบขนมปังสำหรับสมาชิกในครอบครัวทุกวัน เธอจะอบเพิ่มอีกหนึ่งก้อนสำหรับคนหิวโหยที่เดินผ่านไปมาในละแวกบ้านโดยวางไว้บนขอบหน้าต่าง

ทุกวันจะมีชายแก่หลังค่อมมาหยิบขนมปังก้อนนั้นไป แทนที่ชายคนนั้นจะกล่าว “ขอบคุณ” สำหรับความเมตตาที่หยิบยื่นให้ เขากลับบ่นพึมพำว่า “ความชั่วที่ทำจะอยู่กับตัว ความดีที่ทำไม่สูญหาย”

เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้วันแล้ววันเล่า มีชายแก่หลังค่อมมาหยิบขนมปังไปและพึมพำว่า “ความชั่วที่ทำจะอยู่กับตัว ความดีที่ทำไม่สูญหาย”

หญิงคนนั้นรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง เธอบ่นกับตัวเองว่า “ไม่ขอบคุณกันสักคำ ชายหลังค่อมพูดประโยคบ้าๆ นี่ทุกวัน เขาหมายถึงอะไรกันนะ”

วันหนึ่งก็มีความคิดชั่วแล่นเข้ามาในหัวของเธอ “ถึงเวลาที่ฉันจะกำจัดชายหลังค่อมอตัญญูคนนี้เสียที” เธอเจือยาพิษลงในขนมปังก้อนที่เธอเตรียมไว้สำหรับชายหลังค่อม เมื่อกำลังจะเอาขนมปังไปวางไว้ที่ขอบหน้าต่างอย่างที่ทำทุกวัน มือของเธอก็สั่น เธอถามตัวเองว่า “นี่ฉันกำลังจะทำอะไร”

ทันใดนั้นเธอก็ขว้างขนมปังก้อนนั้นเข้าไปในเตาผิงที่ไฟกำลังลุกโชนอยู่ และเตรียมขนมปังใหม่อีกก้อนหนึ่งและนำไปวางไว้ที่ขอบหน้าต่างเหมือนเคย เหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างที่มันเป็นอยู่ทุกวัน ชายแก่หลังค่อมเดินมาหยิบขนมปังก้อนนั้นและพึมพำว่า “ความชั่วที่ทำจะอยู่กับตัว ความดีที่ทำไม่สูญหาย”

ชายหลังค่อมเดินจากไปโดยไม่รู้ว่าในใจของหญิงที่เตรียมขนมปังให้เขาทุกวันคิดอะไรอยู่ ทุกวันขณะที่หญิงคนนี้วางขนมปังไว้ที่ขอบหน้าต่าง เธออธิษฐานเผื่อลูกชายของเธอที่จากไปแดนไกลเพื่อแสวงโชค หลายเดือนแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวจากเขาเลย เธออธิษฐานขอให้ลูกชายเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย

ค่ำวันนั้นเธอได้ยินเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้าน เมื่อเธอเปิดประตูก็ประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เห็นลูกชายยืนอยู่ที่หน้าประตู ร่างกายของเขาซูบผอมและอิดโรย เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เขาหิวโซและไร้เรี่ยวแรง เมื่อเห็นแม่ เขาก็พูดว่า “แม่ครับ อัศจรรย์มากเลยที่ผมกลับมาหาแม่ได้ เมื่อผมเดินทางมาเกือบถึงบ้าน ผมก็หิวมากจนเป็นลมไป ผมคงตายไปแล้วหากไม่มีชายแก่หลังค่อมเดินผ่านมา ผมขอเศษอาหารจากเขาเพื่อประทังความหิว แต่เขาใจดีมากและให้ขนมปังทั้งก้อนที่เขามีแก่ผม เมื่อเขายื่นขนมปังให้ผม เขาพูดว่า “นี่คืออาหารที่ลุงกินทุกวัน วันนี้ลุงจะให้ขนมปังก้อนนี้แก่หลานนะ เพราะหลานต้องการมันมากกว่าลุง”

หน้าของหญิงผู้เป็นแม่ถอดสีเมื่อได้ยินลูกชายพูดเช่นนั้น เธอซวนเซไปพิงประตูเพื่อไม่ให้ล้ม เธอคิดถึงขนมปังที่เจือด้วยยาพิษที่เธอทำเมื่อเช้านี้ หากเธอไม่ตัดสินใจโยนเข้ากองไฟ ลูกชายของเธอคงเป็นคนที่กินขนมปังก้อนนั้น และคงเสียชีวิตไปแล้ว

ในที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายของถ้อยคำที่ชายแก่หลังค่อมพูดว่า “ความชั่วที่ทำจะอยู่กับตัว ความดีที่ทำไม่สูญหาย”

หากเราทำชั่ว ความชั่วนั้นก็จะติดตัวเราไปตลอดและมันจะอยู่ในจิตสำนึกของเรา มันจะตามมาหลอกหลอนความรู้สึกของเราตลอดไป แต่เมื่อเราทำดี ความดีที่ทำไม่สูญหายไปไหน มันจะกลับมาหาเราเอง แม้ว่าเราจะรู้สึกว่าความดีที่ทำไปไม่ได้รับการตอบแทนตามที่เราหวังไว้ก็ตาม

กาลาเทีย 6:9 อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร

พระคัมภีร์ยังบอกเราอีกว่า จงให้เขา และท่านจะได้รับด้วย ลูกา 6:38

ขอให้เราหมั่นทำดี อย่าท้อถอย ความดีที่ทำไม่สูญหายไปไหนแน่

สิธยา คูหาเสน่ห์