1/10/51

อุปสรรคขวากหนาม บั่นทอน ฦา สร้างเสริม

บนเส้นทางแห่งการจาริกฝ่ายวิญญาณนั้นมิใช่เส้นทางที่ปูลาดด้วยกลีบกุหลาบ แต่ทว่าเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามนานัปการ พระเจ้าทรงมิได้สัญญาว่าผู้เชื่อจะได้รับแต่สิ่งดีๆ เท่านั้น ชีวิตที่ดำเนินไปกับพระเจ้าจะมีทั้งช่วงสุขและห้วงทุกข์ระคนกันไป แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม ความรักของพระเจ้าย่อมอยู่เหนือเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้น คนส่วนมากอดคิดไม่ได้ว่าในยามทุกข์นั้นพระเจ้าทรงละทิ้งเราหรือไง ความจริงหาใช่เช่นนั้นไม่ ทั้งสุขและทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ทุกๆ วันในชีวิตของเราเป็นของประทานจากพระเจ้า-เป็น วัน ซึ่ง พระเจ้า ได้ ทรง สร้างให้ เรา เปรมปรีดิ์ และ ยินดี ใน วัน นั้น (สดุดี 118:24)

มันอาจจำเป็นต้องมีความยากลำบากเกิดขึ้นบ้างเพื่อปลุกธรรมาชิกชนทั้งหลายให้ตื่น มันอาจเจ็บปวดอยู่สักพัก แต่หากเรายอมจำนนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เราจะพบว่าแผลฟกช้ำที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้นสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตฝ่ายวิญญาณได้ เราเองอาจต้องการที่จะคงสภาพเป็น “เมล็ดพันธุ์” มากกว่า แต่พระองค์ทรงปรารถนาให้เราเติบโตเป็น “ต้นไม้ที่เกิดผล”

หากพระเมตตาคุณของพระองค์เป็นการส่งความโศกเศร้า การตรากตรำงานหนัก และความวิบัติมาให้แก่เรา หรือเส้นทางของเราเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ขอให้พระองค์ทรงช่วยให้เห็นพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของพระองค์เสมอ และให้เราสามารถละความกระวนกระวายใจทั้งหมดไว้กับพระองค์

เมื่อ เวลา มี ความ เจริญ ก็ จง ชื่นชม ยินดีแต่ เมื่อ ถึง เวลา อับจน ก็ จง พินิจ พิจารณา พระเจ้า ทรง บันดาลให้ มี ทั้งสอง อย่าง เพื่อ มนุษย์ (ปัญญาจารย์ 7:14)

ข้าพเจ้าหวังว่าทุกคนคงเคยได้รู้มาบ้างว่าไข่มุกล้ำค่านั้นเกิดขึ้นจากการที่มีวัตถุแปลกปลอมหลุดเข้าไปในตัวหอยมุก เมื่อเป็นเช่นนั้นหอยมุกก็ต้องป้องกันตัวเองมิให้บาดเจ็บหรือเป็นอันตรายโดยการขับสารอย่างหนึ่งออกมาห่อหุ้มวัตถุแปลกปลอมนั้นจนกระทั่งในที่สุดก็กลายเป็นไข่มุกแสนสวย หลักปรัชญาการกำเนิดของไข่มุกนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชิวิตฝ่ายวิญญาณได้ ครั้งใดก็ตามที่เราถูกกระทบด้วยปัญหาจนเกิดความระคายเคือง หากเราไม่หาทางป้องกันตัวเองมันอาจบั่นทอนจิตใจจนกลายเป็นแผลลึกได้ แต่หากเราไม่ยอมแพ้และพึ่งพิงพระเจ้าอย่างแท้จริง อุปสรรคนั้นอาจสร้างเสริมให้ชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราเข้มแข็งขึ้นได้ สิ่งที่เราค้นพบอาจไม่สวยงามเท่าเม็ดไข่มุกก็จริง แต่มันก็เป็นก้าวแห่งความเชื่อที่ใหญ่ขึ้น และทำให้เห็นพระคุณของพระเจ้าชัดขึ้น อยากให้จดจำไว้ว่าทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรามีบทเรียนอยู่เบื้องหลังเสมอ อย่ามองที่ปัญหา แต่ให้มองที่พระเจ้า เมื่อเรามองที่พระองค์ไม่ว่าปัญหาของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม มันก็เล็กอยู่วันยังค่ำ หากข้าพเจ้าจะเปรียบปัญหานั้นเป็นจุดๆ หนึ่งบนแผ่นกระดาษ มันก็แทบจะไร้ความหมายเมื่อเทียบกับกระดาษทั้งแผ่น เราจะมัวไปเสียเวลาคร่ำครวญกับมันทำไม ลองถอยหลังกลับมาก้าวหนึ่ง ตั้งสติให้มั่น แล้วมองใหม่ บางทีเราอาจมีมุมมองใหม่ๆ ในการจัดการกับปัญหานั้นๆ ก็ได้

ข้าพเจ้าอยากเสนอวิธีมองปัญหาอีกแบบ คราวนี้ให้มองที่ภาพนี้ เราจะมองว่าน้ำพร่องไปครึ่งหนึ่งหรืออีกครึ่งหนึ่งก็เต็มแก้วพอดี หากเป็นแบบแรก เป็นการมองปัญหาแบบบั่นทอนชีวิต แต่หากเป็นแบบที่สองมันเป็นการสร้างเสริมชีวิตให้เต็มบริบูรณ์ แต่การมองแบบที่สองทำได้ไม่ง่ายเลยเมื่อเป็นปัญหาใหญ่มากๆ ที่ถาโถมใส่ชีวิตจนในบางครั้งตั้งตัวรับแทบไม่ทัน หากมรสุมนั้นใหญ่โตขนาดนั้น อย่าเพิ่งหมดแรงและท้อแท้หันหลังหนีเสียก่อน ไม่มีอะไรที่ใหญ่เกินต้านเมื่อมีพระเจ้าอยู่ด้วย ให้มองดูที่พระเจ้า อย่าเพ่งความสนใจไปที่ปัญหา ทูลถามพระเจ้าสิว่าพระองค์ทรงประสงค์จะสอนอะไร ตั้งใจฟังพระสุรเสียงของพระองค์เพราะมันอาจค่อยจนเหมือนเสียงกระซิบ ตั้งใจฟังให้ดี ให้ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่พระเจ้าทรงส่งอุปสรรคนั้นมาให้เป็นเครื่องส่งให้เราก้าวข้ามไปอีกก้าวหนึ่งบนเส้นทางแห่งความเชื่อของเรา และเป็นก้าวข้ามกระโดดที่ยาวไกลกว่าก้าวย่างธรรมดา

ดังนั้น อุปสรรคขวากหนามจะบั่นทอนหรือสร้างเสริมชีวิตก็ขึ้นอยู่กับมุมในการมองปัญหาของเราและขึ้นอยู่กับว่าเรายอมให้พระเจ้าอยู่เหนือปัญหาและเป็นเจ้าของชีวิตของเราหรือไม่ด้วยอีกทางหนึ่ง

เมื่อไรก็ตามที่เจียนหมดแรงกับขวากหนามที่อยู่บนเส้นทางจาริกฝ่ายวิญญาณ ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ฝ่าย มนุษย์ ก็ เหลือ กำลัง ที่ จะ ทำ ได้ แต่ พระเจ้า ทรง กระทำ ให้ สำเร็จ ได้ ทุก สิ่ง-มัทธิว 19:26


สิธยา คูหาเสน่ห์

2 ความคิดเห็น:

  1. หนูเหนื่อยกับบางทีที่รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในครอบครัวที่มีหลายคนหรือแม้แต่ปัญหาใหญ่ๆมันยากเกินกว่าที่หนูจะทนได้ในบางครั้ง การที่หนูจะก้าวต่อในแต่ละวันเลยรู้สึกมันยากมากๆ จนถึงตอนนี้หนูยังคงรู้สึกเสียใจกับแต่ละวัน หนูได้อธิฐานกับพระเจ้าแล้ว รอคอยให้พระองค์กอดหนูบ้าง หนูอยากจะพูดกับใครซักคนแต่มันยากจริงๆค่ะ ขอบคุณบทความนี้ที่ทำให้หนูได้เข้าใจว่าจริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้จะทำให้หนูได้เติบโตขึ้น ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่าน ถ้าอยากคุยกับใครสักคนก็เข้ามาคุยได้ค่ะ

      ลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น