8/10/51

พระองค์ทรงเลี้ยงนกน้อยใหญ่

“เหตุไรข้าเกิดท้อถอย เหตุไรโศกเศร้าบ่อยบ่อย”
“… พระองค์ทรงเลี้ยงนกน้อยใหญ่ …”
ท่านเชื่อเรื่องเหตุบังเอิญบ้างไหม ข้าพเจ้าเชื่อว่าในชั่วชีวิตของท่านคงมีหลายครั้งที่ต้องพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และท่านก็อ้างว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ แต่ถ้าท่านจะมองลึกลงไปในพระคุณของพระเจ้า ท่านจะเห็นว่าไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญหรอก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับท่านเป็นเพราะพระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นทั้งนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า

ถ้าท่านยังเชื่อว่ามีเหตุบังเอิญจริง ลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วลองบอกสิว่ามันเป็นเหตุบังเอิญหรือน้ำพระทัยของพระเจ้ากันแน่!

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ร้านขายกาแฟที่มีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งมีนักดนตรีขับกล่อมให้ความเพลิดเพลินด้วย ลูกค้าของร้านนี้นอกจากจะมานั่งจิบกาแฟแล้ว ยังมานั่งฟังเพลงอีกด้วย วันหนึ่งขณะที่นักร้องกำลังครวญเพลงที่เร้าอารมณ์อยู่นั้น เขาก็สังเกตเห็นว่ามีสุภาพสตรีคนหนึ่งซาบซึ้งไปกับเสียงเพลงของเขาอย่างสุดๆ เธอร้องตามและโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลงอยู่คนเดียวตรงหน้าของเขาพอดี และเมื่อเขาร้องเพลงจบลงเธอก็เดินเข้าไปหาและพูดขึ้นว่า ‘ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่ร้องตามเพลงของคุณ หวังว่าคงไม่ทำให้คุณไม่พอใจนะคะ’ ‘โอ ไม่เลยครับ เราชอบให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมกับวงของเราอยู่แล้ว คุณอยากจะร้องอีกสักเพลงมั้ยล่ะครับ’ นักดนตรีหนุ่มคนนั้นถามอย่างเป็นมิตร เธอตอบตกลงและทำให้นักดนตรีคนนั้นดีใจมาก เขาบอกกับสุภาพสตรีคนนั้นว่า ‘คุณเลือกเพลงมาก็แล้วกันครับ คุณรู้สึกอยากร้องเพลงแบบไหนล่ะครับ’ ‘อือ คุณร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเป็นบ้างมั้ยล่ะ’ เพลงสรรเสริญพระเจ้าน่ะหรือ เธอคิดว่ากำลังถามใครอยู่ล่ะนี่ เพราะชายหนุ่มคนนี้โตมากับเพลงสรรเสริญพระเจ้าเลยทีเดียว เอาเป็นว่าตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เลยก็ว่าได้ เขาแสดงให้รู้ว่าร้องได้ ‘คุณเลือกสิ’ ‘โอ ฉันไม่รู้หรอก มีเพลงเพราะๆตั้งเยอะแยะ คุณเลือกเองก็แล้วกันนะ’ ‘ตกลง คุณว่า เพลงพระองค์ทรงเลี้ยงนกน้อยใหญ่ เป็นไง’ เธอเงียบและหลบตา แต่ไม่ช้าเธอก็มองหน้าเขาอีกครั้งและพูดว่า ‘ได้สิ ให้เราร้องเพลงนั้นกันเถอะ’ เธอค่อยๆผงกศีรษะเป็นการเห็นด้วย วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและยืนขึ้นเดินไปตรงกลางร้าน แล้วเธอก็ร้องเมื่อดนตรีเริ่มบรรเลง เหตุไรใจข้าเกิดท้อถอย เหตุไรโศกเศร้าบ่อยบ่อย เมื่อเธอเริ่มร้องเพลงนี้ ลูกค้าที่อยู่ในร้านก็เหมือนต้องมนต์สะกด ร้องเพลงเพราะว่าข้าชื่นใจ ร้องเพลงเพราะข้าเป็นไทย เพราะพระองค์ทรงเลี้ยงนกน้อยใหญ่ ข้าจึงรู้ทรงเลี้ยงข้าด้วย เมื่อสิ้นเสียงเพลง ผู้ฟังทั้งหลายต่างก็ยืนขึ้นปรบมือให้กับเธอ เสียงปรบมือค่อยๆดังขึ้นเป็นลำดับ ด้วยความประหม่าและเขินอาย สุภาพสตรีคนนั้นก็พูดฝ่าเสียงปรบมือขึ้นว่า ‘โอ ขอให้ทุกคนกลับไปดื่มกาแฟเถอะค่ะ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อแสดงคอนเสิร์ต แต่มาเพื่อหาอะไรดื่มเท่านั้นเองเหมือนกับพวกคุณน่ะแหละ’ แต่เสียงปรบมือก็ยังไม่หยุดและทุกคนก็ยังยืนอยู่เหมือนเดิม ชายหนุ่มคนนั้นเดินมาโอบกอดเธอ และพูดว่า ‘คุณรู้มั้ยครับว่า คุณทำให้ชีวิตในปีนี้ของผมมีความหมายขึ้นเยอะเลย เสียงเพลงของคุณเพราะจับใจจริงๆ’ แล้วเธอก็ตอบว่า ‘ตลกดีนะที่คุณเลือกเพลงนี้ นี่มันอะไรกัน’ เธอลังเลสักครู่แล้วก็พูดต่อไปว่า ‘มันเป็นเพลงโปรดของลูกสาวของฉัน’ เธอจับมือของเขาไว้แน่น ตอนนี้เสียงปรบมือซาลงแล้ว และเหตุการณ์ก็กลับไปเหมือนเดิม เธอเล่าว่า ‘ลูกสาวของฉันอายุ 16 ปี เธอจากไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมอง’ ชายหนุ่มคนนั้นอึ้งไปนานและในที่สุดก็ถามขึ้นว่า ‘คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ’ เธอยิ้มด้วยน้ำตาและบีบมือของเขา และพูดว่า ‘ฉันไม่เป็นไรหรอก พ่อหนุ่ม ฉันเพียงแต่ต้องวางใจองค์พระผู้เป็นเจ้าและร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเรียบร้อยไม่มีปัญหา’ เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วก็เดินออกจากร้านไป

ท่านคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุบังเอิญหรือเปล่า
- สุภาพสตรีคนนี้บังเอิญเดินเข้ามาในร้านกาแฟแห่งนี้หรือ
- ชายหนุ่มคนนั้นบังเอิญเลือก เพลงพระองค์ทรงเลี้ยงนกน้อยใหญ่ ซึ่งเป็นเพลงโปรดของลูกสาวของสุภาพสตรีคนนั้น ซึ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือ

ชายหนุ่มคนนั้นบอกกับตัวเองว่าไม่เชื่อว่าจะเป็นเหตุบังเอิญ เขามั่นใจว่าพระเจ้าเป็นผู้จัดเตรียมให้เขาได้พบกับสุภาพสตรีคนนั้น และพระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาตั้งแต่เริ่มสร้างโลกแล้ว และผมไม่ต้องใช้ความพยายามที่จะใช้จินตนาการมองว่าพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์เข้าไปในร้านกาแฟแห่งนี้เพื่อเปลี่ยนธุรกิจขายกาแฟธรรมดาๆให้เป็นการฟื้นฟูจิตวิญญาณของคนจำนวนหนึ่งที่อยู่ที่นั่นในเวลานั้น มันเป็นการเตือนใจเป็นอย่างดีว่าถ้าเราวางใจองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เสื่อมคลายและร้องเพลงสรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเรียบร้อยไม่มีปัญหา ไม่ว่าท่านจะพบกับความเสียใจอย่างใหญ่หลวงขนาดไหนก็ตาม พระเจ้าก็จะเติมเต็มในสิ่งขาดหายไปด้วยพระคุณของพระองค์ ไม่ว่าท่านจะพบกับการทดลองที่ยั่วยวนใจจนยากที่จะปฏิเสธขนาดไหนก็ตาม พระเจ้าก็จะทรงเสริมกำลังท่านให้เบือนหน้าหนีจากอำนาจชั่วตรงหน้านั้นได้ จำไว้ว่า ไม่ว่าท่านจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายหรือหมดหวังเพียงใดก็ตาม ท่านจะมีชัยในที่สุดถ้าท่านวางใจในพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยความรักและความเมตตา

อยากจะหนุนใจให้ทุกคนร้องเพลงนี้บ่อยๆ แล้วท่านจะพบว่าพระเจ้าช่างประเสริฐจริงๆ

“พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก” สดุดี 46:1, 2


สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น