1/10/51

ชิม...จึงรู้รส

ขอเชิญชิมดูแล้วจะเห็นว่าพระเจ้าประเสริฐ
สดุดี 34:8

ข้าพเจ้าหวังว่าเราคงเคยไปเที่ยวและได้เห็นความงดงามของน้ำตกที่เป็นฝีพระหัตถ์อันเลิศขององค์พระผู้เป็นเจ้ากันแล้วทุกคน เมื่อเรามองจากระยะไกล เราก็เห็นว่าน้ำตกนั้น “ช่างสวยจริงๆ” สายน้ำที่ไหลตกลงมาทำให้นึกถึงความชุ่มฉ่ำและชวนให้เข้าไปสัมผัสใกล้ๆ ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งเห็นความตระการตามากขึ้น ยิ่งใกล้ ยิ่งงาม ยิ่งน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เรามิได้เห็นเฉพาะสายน้ำผืนใหญ่ที่ไหลอยู่ชั่วนาตาปีเท่านั้น แต่เรายังได้ยินเสียงน้ำกระทบโขดหินด้วย ฟังดีๆ จะเหมือนเสียงดนตรีที่บรรเลงโดยธรรมชาติที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา นอกจากนั้นจมูกยังได้กลิ่นดินเปียกๆ กลิ่นต้นพืชที่ขึ้นอยู่ตามริมน้ำ และเมื่อเราเอามือกวักน้ำก็สามารถสัมผัสความเย็นฉ่ำและความสดชื่น เราคงไม่ได้เห็นความงามของสายน้ำตกอย่างเต็มที่หากเราไม่เข้าไปสัมผัสใกล้ๆ ชิม...จึงรู้รส

เช่นเดียวกันเมื่อเรามองคนๆ หนึ่งอยู่ห่างๆ เราก็คงเห็นเฉพาะรูปโฉมภายนอกของเขาเท่านั้น เราจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร มีความนึกคิดแบบใด ถ้าอยากรู้จักให้ลึกลงไปกว่าภาพที่ปรากฏให้เห็นภายนอก เราก็ต้องทำความคุ้นเคยกับเขาโดยเข้าไปทำความรู้จักและใกล้ชิดกับเขา เมื่อเราเข้าใกล้แล้วจึงสามารถเรียนรู้นิสัยใจคอและความนึกคิดของเขาได้ เมื่อมีความสนิทชิดเชื้อมากขึ้น เราจึงสามารถสัมผัสสิ่งที่อยู่ลึกในใจของเขา สามารถรู้จักตัวตนของเขา ชิม...จึงรู้รส

การเข้าหาพระเจ้าก็คงหนีไม่พ้นวิธีการที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่บ่อยครั้งเราไม่ได้เข้าหาพระองค์เลย เราแค่ไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ แล้วเราก็บอกว่าเราไปนมัสการพระเจ้า ไปเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เราก็อยู่แค่นั้นเอง เราไม่ได้ขยับไปไหน เราย่ำอยู่ตรงจุดนั้นอาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่า เราไม่ได้มีสัมพันธภาพกับพระองค์มากไปกว่านั้น เรายังคงใช้เวลาที่พระเจ้าทรงประทานให้วุ่นวายกับชีวิตที่ยุ่งอยู่กับงานและอีกสารพัดสิ่งที่ประดังเข้ามาบนเส้นทางชีวิตของเรา เราบอกว่าเราหาเวลาไม่ได้เลยที่จะทำอย่างอื่น ไม่แม้กระทั่งการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า (แต่ถ้าเราตั้งใจที่จะหาเวลาที่จะใกล้ชิดกับพระเจ้าจริงๆ เราก็จะพบ) เราสามารถเห็นความงดงามของน้ำตกอย่างเต็มตาเมื่อเราเข้าไปใกล้ๆ เช่นเดียวกันหากเราอยากรู้ซึ้งถึงความประเสริฐของพระเจ้า เราต้องเข้าใกล้พระองค์ วิธีการที่จะใกล้ชิดกับพระองค์ก็โดยทางการอ่านพระวจนะ การอธิษฐาน การมีส่วนร่วมกับชุมชนผู้เชื่อ และการทำพันธกิจเพื่อออกไปหาคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เมื่อเรารู้จักพระเจ้าผู้แสนดีแล้ว อย่าเก็บไว้คนเดียวเลย เราควรบอกให้คนที่ยังไม่รู้จักพระองค์ได้รู้จักกับพระองค์และมีประสบการณ์อย่างที่เรามีบ้าง การทำเช่นนี้จะทำให้เรารู้จักและสัมผัสพระองค์มากยิ่งขึ้น เมื่อนั้นเราจะเห็นความงดงามของพระองค์มากยิ่งๆ ขึ้น เราจะรู้ว่าพระองค์ทรงงดงาม ทรงแสนดี ทรงประเสริฐ ขอเชิญชิมดูแล้วจะเห็นว่าพระเจ้าประเสริฐ

ท่านล่ะ ลองชิมความประเสริฐขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วหรือยัง (ถ้ายัง ลองชิมดูสิ) หากท่านลองชิมดูแล้วและรู้ว่าพระองค์ทรงประเสริฐ ท่านเก็บเอาไว้ชื่นชมคนเดียวหรือเปล่า (หากท่านเก็บไว้คนเดียว ลองแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง แม้กระทั่งกับผู้เชื่อด้วยกัน) ท่านชิมไปกี่ครั้งแล้ว (ข้าพเจ้าอยากเชิญชวนให้ท่านชิมบ่อยๆ ยิ่งชิมก็ยิ่งเห็นความประเสริฐของพระองค์มากยิ่งขึ้น)

มาชิมกันเถอะนะ คริสเตียน!

สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น