9/10/51

รอก่อน…ฮะ

คิดว่าทุกคนคงรู้ว่าในขณะนี้มีการรณรงค์เรื่อง “เมาไม่ขับ” กันอย่างครึกโครม อันที่จริงจิตสำนึกในเรื่องนี้ควรจะมีการสร้างกันมานานแล้ว ในอดีตที่ผ่านมามีกี่ชีวิตที่ต้องถูกสังเวยไปกับความไร้สติของผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนเนื่องจากการไปข้องเกี่ยวกับสุรายาเมา มีกี่ชีวิตที่แม้ไม่ตายแต่ก็ต้องพิการไปตลอดชีวิต และผลของการกระทำที่ขาดสติสัมปชัญญะและขาดความรับผิดชอบทั้งชีวิตของตนและของผู้อื่นเช่นนี้ทำให้ดวงใจกี่ดวงต้องแตกสลายและจมอยู่กับกองทุกข์ที่อาจจะไม่มีวันฟื้นกลับสู่สภาพเดิมได้อีกต่อไป ข้าพเจ้าแอบหวังในใจเงียบๆว่าเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวคริสเตียน เพราะเราชาวคริสต์ไม่ข้องเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว แต่มันอาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราเป็นผู้ถูกกระทำ

ข้าพเจ้าอยากจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจเรื่องหนึ่ง ไปสัมผัสกับความรักใสๆของเด็กชายตัวน้อยๆคนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจเรื่องความตายเลย แต่เขาก็อยากจะทำอะไรที่ดีๆให้กับคุณแม่และน้องสาวของเขาก่อนที่ทั้งสองจะจากเขาไปชั่วนิรันดร์

เรื่องมีอยู่ว่า …

ในวันสุกดิบของวันคริสตมาส ฉันมีเวลาไม่มากนักที่จะไปจับจ่ายซื้อของขวัญที่ยังจัดการไม่เสร็จ ฉันไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีคนมากก็บ่นกับตัวเองว่า “นี่ฉันจะต้องเสียเวลานานสักเท่าไรหนอจึงจะซื้อของที่เหลือในรายการที่จดไว้ได้ครบ เออ…ยังต้องไปอีกหลายแห่งเลยนะนี่” เทศกาลคริสตมาสชักจะสร้างความรำคาญให้มากขึ้นๆทุกปีเสียแล้ว โอย! ฉันอยากนอนลงและหลับไปและเมื่อตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็ …

ในที่สุด ฉันก็มาถึงแผนกของเล่นจนได้ และเมื่อเห็นราคาของเล่นแต่ละชิ้น ฉันก็เริ่มต่อว่าและบ่นไปเรื่อยๆว่าทำไมเด็กต้องเล่นของเล่นราคาแพงสูงลิ่วขนาดนี้ด้วยนะ และฉันก็เห็นเด็กชายอายุประมาณ 5 ปีคนหนึ่งกำลังอุ้มตุ๊กตาตัวหนึ่งไว้และเอามือลูบผมของมัน หน้าตาของเด็กคนนั้นเศร้ามาก ฉันสงสัยว่าเขาอยากซื้อตุ๊กตาตัวนี้ให้ใครกันนะ แล้วเขาก็หันไปหาหญิงชราคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับเขา และถามว่า “คุณย่าครับ แน่ใจนะว่าผมไม่มีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้” หญิงชราคนนั้นตอบว่า “หนูรู้แก่ใจดีแล้วนี่ว่าหนูมีเงินไม่พอหรอก” และหญิงชราก็บอกให้หลานของเธอยืนอยู่ตรงนั้นสัก 5 นาทีในขณะที่เธอไปดูของที่อื่น แล้วก็เดินจากไปโดยเร็ว แต่เด็กคนนั้นยังไม่ยอมปล่อยตุ๊กตาตัวนั้น ในที่สุดฉันก็เดินเข้าไปหาและถามเขาว่าอยากซื้อตุ๊กตาตัวนี้ให้ใคร

“มันเป็นตุ๊กตาที่น้องสาวของผมชอบที่สุดฮะ และเธอก็อยากจะได้มันมากเป็นของขวัญวันคริสต์มาส เธอมั่นใจมากว่าซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ” ฉันบอกว่าซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตานี้แก่น้องสาวของเขาแน่ๆ และก็ไม่ต้องกังวลหรอก แต่เขาตอบฉันด้วยท่าทางเศร้าสลดว่า “ไม่หรอกฮะ ซานตาคลอสไม่สามารถเอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอในที่ๆเธออยู่ตอนนี้ได้ ผมจะเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้คุณแม่เอาไปให้เธอเมื่อคุณแม่ไปที่นั่น” ดวงตาของเขาเศร้ามากขณะที่เขาพูดต่อไปว่า “น้องสาวของผมไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว คุณพ่อบอกว่าคุณแม่ก็จะไปเหมือนกันในเร็วๆนี้ ผมก็เลยคิดว่าคุณแม่น่าจะเอามันไปให้น้องสาวของผมได้”

หัวใจของฉันเกือบจะหยุดเต้น เด็กชายคนนั้นเงยหน้ามองฉันแล้วพูดว่า “ผมบอกคุณพ่อให้บอกคุณแม่ว่าอย่าเพิ่งไป ให้รอผมจนกว่าผมจะกลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเสียก่อน”

แล้วเขาก็เอารูปของเขาที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขให้ฉันดู และพูดว่า “ผมอยากให้คุณแม่เอารูปนี้ไปด้วย คุณแม่จะได้ไม่ลืมผม ผมรักคุณแม่มากและไม่อยากให้คุณแม่ต้องจากผมไป แต่คุณพ่อบอกว่าคุณแม่ต้องไปอยู่กับน้องสาวของผม” และเขาก็มองดูตุ๊กตาตัวนั้นอย่างเศร้าๆอีกครั้งหนึ่ง ฉันรีบเอามือล้วงกระเป๋าแล้วก็หยิบธนบัตรออกมา 2-3 ใบ และพูดกับเด็กชายคนนั้นว่า “ทำไมไม่ลองนับเงินดูใหม่อีกสักครั้งหนึ่งล่ะ เผื่อว่าอาจจะมีเงินพอที่จะซื้อก็ได้” “ตกลงฮะ ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ฉันได้แอบเอาเงินใส่ลงไปในกระเป๋าของเขา เราเริ่มนับเงินด้วยกัน และเงินที่นับได้ก็พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนั้นจริงๆ และยังมีเงินเหลืออีกด้วย

เด็กคนนั้นมองดูฉันและพูดว่า “ผมอธิษฐานทูลขอพระเจ้าเมื่อวานนี้ก่อนที่จะนอนว่าขอให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้ให้คุณแม่เอาไปให้น้อง พระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของผม ผมยังอยากจะมีเงินพอที่จะซื้อดอกกุหลาบสีขาวสักดอกหนึ่งให้คุณแม่ด้วย แต่ผมไม่ได้ขอพระเจ้ามากถึงขนาดนั้น แต่ดูสิ พระองค์ทรงให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อทั้งตุ๊กตาให้น้องและดอกกุหลาบสีขาวให้คุณแม่ด้วย คุณแม่ชอบดอกกุหลาบสีขาวฮะ”

หลังจากนั้นฉันก็จำข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 2 วันก่อนได้ว่ามีคนขับรถบรรทุกที่เมาเหล้าคนหนึ่งขับรถชนรถอีกคันหนึ่งที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกับเด็กหญิงตัวเล็กๆในรถ เด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตทันที แต่แม่ของเธอบาดเจ็บสาหัส ครอบครัวของพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจออกเพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถผ่านพ้นวิกฤตขั้นโคม่าไปได้ จะเป็นครอบครัวของเด็กชายคนนี้รึเปล่านะ

2 วันหลังจากได้พบกับเด็กชายคนนั้น ฉันก็อ่านพบในหนังสือพิมพ์ว่า หญิงสาวคนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว ฉันไม่อาจห้ามใจตัวเองไม่ให้ซื้อกุหลาบขาวช่อหนึ่งไปร่วมในพิธีศพของหญิงสาวคนนั้นได้ ร่างอันไร้วิญญาณของเธอนอนสงบนิ่งอยู่ในโลงศพที่เปิดฝาออกให้คนได้ดูและอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝัง ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่งกับรูปถ่ายของเด็กชายคนนั้นและมีตุ๊กตาตัวหนึ่งวางอยู่บนหน้าอก

ฉันออกไปข้างนอกทั้งน้ำตา รู้สึกว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล ความรักที่เด็กผู้ชายคนนี้มีให้แม่และน้องสาวของเขานั้นยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์เกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ แต่เพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น คนเมาเหล้าคนหนึ่งก็ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขาจนสิ้นเชิง

สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น