6/10/51

ผู้หญิง

ในวันที่หกเมื่อพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างโลก ทูตสวรรค์องค์หนึ่งปรากฏขึ้นต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าในขณะที่พระองค์ทรงง่วนอยู่กับพระหัตถกิจชิ้นหนึ่งและทูลถามว่า “เพราะเหตุใดพระองค์ทรงใช้เวลากับงานชิ้นนี้นานเหลือเกินพระเจ้าค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้วนะ พระเจ้าข้า”

พระเจ้าตรัสตอบว่า “เจ้าไม่เห็นการออกแบบของงานชิ้นนี้หรืออย่างไร สิ่งนี้จะต้องล้างทำความสะอาดได้ แต่ต้องไม่ใช่สิ่งที่ทำจากพลาสติก มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ได้ 200 ชิ้น ทุกชิ้นซ่อมแซมเปลี่ยนใหม่ได้ ไม่รังเกียจที่จะกินอาหารที่เหลือ มีตักกว้างพอที่จะวางเด็กได้สามคนในคราวเดียวกัน รอยจูบสามารถรักษาได้ทุกเรื่องตั้งแต่หัวเข่าถลอกไปจนถึงหัวใจที่แตกสลาย และมีสิบสองมือ”

ทูตสวรรค์ตกใจว่าพระหัตถกิจชิ้นนี้ทำไมจึงออกแบบมาประหลาดเช่นนี้ มีสิบสองมือกระนั้นหรือ โอ! ไม่มีทางเป็นไปได้ “แต่นั่นเป็นเพียงแบบมาตรฐานเท่านั้น” พระเจ้าทรงแย้ง

ทูตสวรรค์พยายามจะหยุดพระเจ้า “แต่...นี่ก็ดึกมากแล้ว พระเจ้าค่ะ ขอทรงโปรดทำต่อพรุ่งนี้เถิด พระเจ้าค่ะ” พระเจ้าทรงคัดค้านว่า “ไม่ได้หรอก เราทำจวนจะเสร็จแล้ว งานชิ้นนี้ของเราตรงใจของเรามาก สิ่งนี้รักษาตัวเองเวลาป่วยและสามารถทำงานได้วันละ 18 ชั่วโมง” ทูตสวรรค์จึงเขยิบตัวเข้าไปใกล้และแตะต้องสิ่งนั้น “แต่พระองค์เจ้าข้า ทำไมตัวจึงนุ่มนิ่มเหลือเกิน พระเจ้าข้า”

พระเจ้าตรัสว่า “ถูกต้องแล้วล่ะ นุ่มนิ่มก็จริงนะ แต่เราก็ทำให้มีความแข็งแกร่งด้วย เจ้าไม่รู้หรอกว่าสิ่งนี้มีน้ำอดน้ำทนมากแค่ไหน และสามารถทำอะไรได้บ้าง” ทูตสวรรค์สงสัยว่าสิ่งนี้จะคิดเป็นไหมนะ พระเจ้าตรัสว่า “ไม่เพียงแต่คิดเป็นเท่านั้นนะ แต่ยังคิดอย่างมีเหตุผลและเจรจาพาทีเป็นอีกด้วย”

ทูตสวรรค์สังเกตเห็นบางสิ่งและยื่นมือออกไปแตะที่แก้ม “อ้าว! ดูเหมือนจะมีอะไรไหลออกมาเปียกๆนะ พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ทูลแล้วว่าพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยเกินไปแล้ว” “ที่เจ้าเห็นและจับต้องอยู่น่ะไม่ใช่รอยแตกจนมีอะไรรั่วออกมาหรอกนะ แต่เป็นน้ำตาต่างหาก!” ทูตสวรรค์ไม่เข้าใจและทูลถามว่า “น้ำตามีไว้เพื่ออะไร พระเจ้าข้า” พระเจ้าตรัสตอบว่า “สิ่งนี้จะหลั่งน้ำตาเมื่อรู้สึกมีความสุข เสียใจ เจ็บปวด ผิดหวัง อ้างว้าง เศร้า และภูมิใจ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทูตสวรรค์จึงประทับใจมาก “พระองค์ทรงมีปัญญาล้ำเลิศจริงๆ พระองค์ทรงสร้างได้อย่างมหัศจรรย์จริงๆ”

ท่านรู้หรือไม่ว่าพระเจ้าทรงกำลังสร้างอะไร

ถ้าไม่รู้ ข้าพเจ้าจะเฉลยคำตอบให้ฟัง

ผู้หญิง! ใช่แล้ว พระเจ้าทรงกำลังสร้างผู้หญิงไงล่ะ

ด้วยเหตุนี้ ความแข็งแกร่งของผู้หญิงจึงทำให้ผู้ชายฉงนสนเท่ห์ ผู้หญิงสามารถทนความลำบากได้อย่างทรหดที่สุด ผู้หญิงแบกรับภาระหนัก ผู้หญิงเป็นผู้สร้างความสุข ผู้ให้ความรัก และผู้หยิบยื่นความชื่นชมยินดี เธอยิ้มได้ทั้งๆที่อยากกรีดร้องจนสุดเสียง เธอร้องเพลงเมื่ออยากร้องไห้ เธอร้องไห้เมื่อมีความสุขและหัวเราะเมื่อตกอยู่ในอาการประหม่า เธอสู้แบบหัวชนฝาในสิ่งที่เธอเชื่อ เธอต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เธอไม่ตอบปฏิเสธง่ายๆ เธอยอมอดเพื่อให้ครอบครัวมีกิน เธอพาเพื่อนที่ตื่นตระหนกไปหาหมอ เธอรักอย่างไม่มีเงื่อนไข เธอร้องไห้เมื่อลูกประสพความสำเร็จและดีใจกับเพื่อนที่ได้รับรางวัล เธอมีความสุขเมื่อได้ข่าวงานแต่งงานหรือเด็กเกิดใหม่ เธอเสียใจปานหัวใจจะสลายเมื่อรู้ว่าเพื่อนคนหนึ่งได้จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ เธอแทบจะหมดแรงเมื่อสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป แต่ทว่าเธอยังเข้มแข็งอยู่ เธอรู้ว่าสิ่งที่ช่วยรักษาหัวใจที่แตกสลายได้คือรอยจูบและอ้อมกอดของเธอ ผู้หญิงถูกสร้างมาให้มีรูปร่างต่างๆกัน มีสีผิวต่างๆกัน และมีขนาดต่างๆกัน ความห่วงหาอาทรของเธอทำให้โลกยังคงหมุนต่อไป เธอนำความชื่นชมยินดีและความหวังมา เธอมีความเห็นอกเห็นใจและความคิดสูงส่ง เธอคอยให้กำลังใจ เธอมีอะไรที่จะให้และจะพูดมากมายเหลือเกิน

นี่เป็นเพียงจินตนาการของใครสักคนเท่านั้น แต่ท่านคงไม่ปฏิเสธว่าผู้หญิงเป็นอย่างนั้นจริงๆ ข้าพเจ้า (ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง) เห็นว่าคุณสมบัติของผู้หญิงยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง ข้าพเจ้ามั่นใจว่าทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจดีแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่ขอสดุดีผู้หญิงมากไปกว่าเนื้อเรื่องข้างต้น เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าข้าพเจ้ามาเรียกร้องสิทธิสตรี

ข้าพเจ้าเพียงแต่อยากหนุนใจผู้หญิงทุกคนให้ทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้าพระผู้สร้าง

ผู้หญิงทุกคนย่อมมีโอกาสเป็นลูกสาว พี่สาว (น้องสาว) ภรรยา แม่ ย่า (ยาย) ...

ไม่ว่าท่านจะกำลังสวมบทบาทใดอยู่ก็ตาม จงขอบพระคุณพระเจ้าเถิด!


สิธยา คูหาเสน่ห์

1 ความคิดเห็น:

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น