10/10/51

พระเจ้าผู้ทรงเมตตา

คิดว่าคริสเตียนทุกคนคงตระหนักดีว่าพระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตาอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเฝ้ามองดูเราอยู่ตลอดเวลา พระองค์มิเคยหลับเลย พระองค์จะไม่ยอมให้ลูกแกะของพระองค์แม้เพียงตัวเดียวหลงหายไป “เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือ เราเองจะค้นหาแกะของเรา และเที่ยวหามัน” (อสค. 34:11) พระองค์ทรงรู้จักแกะทุกตัวของพระองค์ ทรงรักและเมตตาอย่างยิ่ง

เมื่อเราทำผิดและสารภาพการล่วงละเมิดของเรา พระองค์ทรงให้อภัยและไม่จดจำความผิดของเราไว้ เมื่อเรามีความทุกข์ขมขื่น พระองค์ทรงเล้าโลมฟื้นจิตใจของเราให้ชื่นขึ้น เมื่อเราล้มลงด้วยความท้อใจ พระองค์ทรงชูกำลังให้เราสามารถยืนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเราหลงหายไปจากพระพักตร์ พระองค์ก็จะทรงออกเที่ยวตามหา พระองค์ทรงเคลื่อนไหวด้วยวิธีการต่างๆ ที่เกินความเข้าใจของเรา

ข้าพเจ้าเคยมีประสบการณ์ดังกล่าวข้างต้น และจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพระเจ้าทรงรักข้าพเจ้าอย่างแท้จริงและทรงรู้ว่าอะไรคือความทุกข์และปัญหาของข้าพเจ้า และทรงทำให้ข้าพเจ้าแน่ใจว่าพระองค์ทรงห่วงใยและทรงเฝ้ามองดูข้าพเจ้าอยู่ด้วยความเมตตาอย่างล้นเปี่ยม

คงจะไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าในบางครั้งความขัดแย้งในการดำรงชีวิตแบบคริสเตียนก็เกิดขึ้นกับเราอย่างมากมาย ข้าพเจ้าก็เคยรู้สึกอย่างนั้นถึงขั้นที่ว่าเห็นบางคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าดีกว่าพี่น้องคริสเตียนด้วยกันเสียด้วยซ้ำ เมื่อมีความรู้สึกเช่นนี้ก็ไม่อยากไปโบสถ์ อ่านพระคัมภีร์ก็มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจ ขาดสัมพันธภาพที่ดีกับพระเจ้า ชีวิตดูช่างไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง เสมือนว่าลืมพระเจ้าไปชั่วขณะ

แต่พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ แม้ว่าข้าพเจ้ามีทีท่าว่ากำลังจะหลงหายไปจากพระพักตร์ของพระองค์ แต่พระองค์ก็มิได้ทรงพิโรธแต่กลับพยายามช่วยกู้และพยุงข้าพเจ้ากลับมาสู่อ้อมพระกรอันอบอุ่นของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ทรงทำให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวของข้าพเจ้ากลับฟื้นมีชีวิตอีกครั้ง ทรงสัมผัสข้าพเจ้าและทรงเปลี่ยนแปลงข้าพเจ้า นอกจากนั้นพระเจ้ายังทรงเคลื่อนไหวผ่านสิ่งต่างๆ อย่างเช่น คำหนุนใจผ่าน pager ซึ่งพระวจนะที่ส่งมาตรงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่พอดี บางครั้งก็ได้รับคำหนุนใจทางโทรศัพท์พร้อมกับคำอธิษฐานที่มีพลัง ข้าพเจ้าสามารถรู้สึกได้ด้วยสัมผัสพิเศษซึ่งไม่สามารถจะอธิบายให้เข้าใจได้

ขณะนี้ข้าพเจ้าสามารถยืนยันได้ว่า ความรักของพระเจ้าช่างยิ่งใหญ่จริงๆ และพระเมตตาของพระองค์ก็ไม่มีขอบเขตที่จำกัด ข้าพเจ้าไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเราจะไม่พบกับปัญหาหรือความยากลำบากเลยเมื่อพระเจ้าทรงเมตตาเรามากมายขนาดนั้น พระองค์ทรงมีน้ำพระทัยสำหรับแต่ละคนต่างกัน สิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเราทั้งที่ดีและไม่ดีก็ต้องอยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้า ถ้าท่านไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดพระเจ้าจึงทรงให้เกิดขึ้นเช่นนั้น ขอให้อธิษฐานแล้วท่านจะได้คำตอบอย่างชัดเจน และจะเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าชัดขึ้นๆ ทุกวัน ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของท่านจะเติบโตขึ้น และที่สำคัญท่านจะเห็นพระคุณของพระเจ้ามากขึ้นด้วย

ท่านมีอะไรก็ขอให้ทูลต่อพระเจ้าเถิด พระองค์จะทรงฟัง และพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานตามที่ทรงสัญญาไว้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ ดังนั้น คริสเตียนทั้งหลายเอ๋ย เรียนรู้ที่จะสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าของเราด้วย ให้เรามีวิถีดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับพระคำของพระองค์ อย่าเชื่ออย่างเดียวเท่านั้น แต่ให้มีการกระทำด้วย ไม่เช่นนั้นเราจะเป็นคนลวงตัวเอง (ยก. 1:22) และเป็นความเชื่อที่ไร้ผล (ยก. 2:17) แต่หนทางแห่งการดำเนินชีวิตเช่นนี้มิใช่เรื่องง่าย เราต้องพบกับสิ่งล่อลวงมากมาย พบกับการทดลองมากมาย ถ้าเราไม่ยึดพระคำของพระเจ้าให้มั่น ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะหลงทางไปและอาจจะหาทางกลับไม่พบ แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นพระเจ้าจะออกเที่ยวตามหาเราจนพบเพราะพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และพระเมตตาที่มีอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อนั้นขอให้เรายอมตามพระองค์กลับมาแต่โดยดี และเราก็จะพบกับความสว่างอีกครั้ง

ข้าพเจ้ายังมีคำพยานส่วนตัวอีกมากมาย และยิ่งเห็นพระเมตตาของพระเจ้าชัดเจนมากยามเจ็บป่วย คิดว่าคงมีโอกาสที่จะแบ่งปันอีกในโอกาสต่อไป

สิธยา คูหาเสน่ห์

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ15/1/54 20:09

    หนุนใจมากเลยค่ะ ขอบคุณพระเจ้านะคะที่พระองค์ทรงให้กำลังใหม่ผ่านทางบทความที่หนุนใจนี้ +-+

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ16/7/55 14:47

    เช่นกันค่่ะ หนูอยากขอบพระคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูมี หน้าที่่การงาน บ้าน รถ ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูมีเพราะพระเจ้าทรงประทานให้กับหนู และยังรักษาหนูห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งสิ้น

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น