9/10/51

แม่จ๋า…หนูรักแม่

วันวาเล็นไทน์ก็เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้ง หลายคนเข้าใจว่าเป็นวันหรือโอกาสที่จะแสดงความรักต่อกัน ซึ่งรักก็มีหลายรูปแบบ สัญลักษณ์แทนความรักก็มีหลากหลายชนิด แต่ที่นิยมกันมากที่สุดเห็นจะเป็นกุหลาบสีแดงดอกใหญ่ แม้ว่าราคาจะสูงเท่าไรคนซื้อก็ไม่ยั่น ขอให้มีดอกไม้ไปให้แก่คนอันเป็นที่รักก็พอใจแล้ว ดังนั้น ผู้ที่ได้รับความรักมากที่สุดเห็นจะเป็นพวกพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายที่คนซื้อต่างก็เทความรักไปให้ ไม่ว่าจะขายดอกไม้ในราคาที่สูงกว่าปกติกี่เท่าตัวก็ไม่ว่ากัน ยอมเทกระเป๋าซื้อกันทีเดียว นี่คือวิธีแสดงความรักของคนในยุคนี้

แต่วิธีการของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันไป ของคุณล่ะเป็นอย่างไร

ปีนี้ท่านตั้งใจจะมอบความรักให้ใคร ด้วยวิธีใด และ ด้วยอะไร

แต่ข้าพเจ้าอยากขอถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ท่านบอกรักกับคนพิเศษที่สุดในชีวิตของคุณรองจากพระเจ้าพระผู้สร้าง ไม่ใช่ใครอื่น คุณแม่ไงล่ะ บอกคุณแม่สักนิดว่า “แม่จ๋า หนูรักแม่”

ข้าพเจ้าอยากให้ท่านลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วใคร่ครวญสักนิดว่า ท่านเคยมีท่าทีเช่นนั้นกับคุณแม่หรือเปล่า ถ้ามี ยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในขณะที่ยังมีโอกาส จงฉวยโอกาสที่แม่ยังอยู่กับเราและแสดงให้รู้ว่าเรารักท่าน ถ้าท่านปล่อยให้โอกาสล่วงเลยไปแล้วจึงได้คิด จะสายไป ข้าพเจ้าขอเตือนด้วยความหวังดี เพราะการที่เราอยากทำอะไรดีๆให้กับแม่แต่แม่ไม่อยู่แล้วนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก

ข้าพเจ้าได้รับข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์มาเรื่องหนึ่ง จึงอยากจะแบ่งปันให้พี่น้องได้อ่านกัน


เมื่อฉันอายุ 1 ปี คุณแม่ป้อนข้าวป้อนน้ำและอาบน้ำแต่งตัวให้ฉันทุกวัน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการร้องไห้โยเยตลอดทั้งคืน

เมื่อฉันอายุ 2 ปี คุณแม่สอนให้ฉันหัดเดิน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการวิ่งหนีเมื่อคุณแม่เรียกหาเมื่อฉันเดินได้แล้ว
เมื่อฉันอายุ 3 ปี คุณแม่ลงมือทำอาหารทุกมื้อให้ฉันด้วยความรักความเอาใจใส่
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการโยนจานข้าวลงบนพื้น
เมื่อฉันอายุ 4 ปี คุณแม่ก็หาสีเทียนมาให้ฉันหัดระบายรูปภาพ
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการระบายสีลงบนโต็ะรับประทานอาหาร
เมื่อฉันอายุ 5 ปี คุณแม่ช่วยแต่งตัวให้อย่างสวยงามเพื่อไปเที่ยวในวันหยุด
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการลงไปเล่นคลุกโคลนอย่างสนุกสนาน
เมื่อฉันอายุ 6 ปี คุณแม่พาฉันไปเรียนหนังสือ
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการกรีดเสียงร้องตะโกนว่า “หนูไม่ไป หนูไม่ไป”
เมื่อฉันอายุ 7 ปี คุณแม่ซื้อลูกบอลให้ลูกหนึ่ง
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการโยนลูกบอลไปที่หน้าต่างของเพื่อนบ้าน
เมื่อฉันอายุ 8 ปี คุณแม่ซื้อไอสกรีมให้ฉัน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการปล่อยให้หยดใส่เสื้อผ้าจนเลอะเทอะ
เมื่อฉันอายุ 9 ปี คุณแม่ให้ไปเรียนเปียโน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการไม่สนใจที่จะฝึกซ้อมเลย
เมื่อฉันอายุ 10 ปี คุณแม่ช่วยขับรถส่งฉันไปตามที่ต่างๆที่อยากไป
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการกระโดดลงจากรถเมื่อถึงที่หมายและไม่หันมามองคุณแม่เลยแม้แต่สักแวบหนึ่ง
เมื่อฉันอายุ 11 ปี คุณแม่พาฉันและเพื่อนๆไปดูภาพยนตร์
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการขอนั่งคนละแถวกับคุณแม่
เมื่อฉันอายุ 12 ปี คุณแม่เตือนว่าไม่ควรจะดูรายการทีวีบางรายการ
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการรอให้คุณแม่ออกไปทำธุระนอกบ้านเสียก่อน
เมื่อฉันอายุ 13 ปี คุณแม่ช่วยแนะนำทรงผมที่เข้ากับใบหน้าของฉัน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกว่าคุณแม่ช่างไร้รสนิยมเสียจริงๆ
เมื่อฉันอายุ 14 ปี คุณแม่ยอมเสียเงินเพื่อให้ฉันได้เข้าค่ายฤดูร้อนเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการไม่เขียนจดหมายมาหาคุณแม่แม้แต่สักฉบับเดียว
เมื่อฉันอายุ 15 ปี คุณแม่อยากเห็นหน้าฉันเมื่อกลับมาถึงบ้านหลังจากเลิกงานแล้ว
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการขังตัวเองอยู่ในห้องนอน
เมื่อฉันอายุ 16 ปี คุณแม่สอนให้หัดขับรถ
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการเอารถออกไปเที่ยวทุกครั้งที่มีโอกาส
เมื่อฉันอายุ 17 ปี คุณแม่กำลังรอโทรศัพท์ด้วยธุระสำคัญอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการใช้โทรศัพท์ตลอดคืน
เมื่อฉันอายุ 18 ปี คุณแม่ดีใจจนร้องไห้ในวันที่ฉันจบการศึกษา
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการออกไปฉลองกับเพื่อนๆจนรุ่งสาง
เมื่อฉันอายุ 19 ปี คุณแม่ส่งเสียให้เรียนในมหาวิทยาลัย ขับรถไปส่งและช่วยถือสัมภาระให้
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกลาคุณแม่ที่ข้างนอกเพราะอายไม่อยากให้เพื่อนๆเห็น
เมื่อฉันอายุ 20 ปี คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงว่ามีใครเข้ามาในชีวิตหรือยัง
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกคุณแม่ว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของคุณแม่”
เมื่อฉันอายุ 21 ปี คุณแม่ก็แนะนำว่าควรจะประกอบอาชีพอะไร
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกว่า “หนูไม่อยากเป็นเหมือนแม่”
เมื่อฉันอายุ 22 ปี คุณแม่กอดฉันด้วยความชื่นชมและความรักในวันที่ฉันเป็นบัณฑิต
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกว่าอยากได้รางวัลด้วยการไปท่องเที่ยวยุโรป
เมื่อฉันอายุ 23 ปี คุณแม่ช่วยออกค่าตกแต่งบ้านให้เมื่อฉันแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพัง
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการเที่ยวบอกเพื่อนๆว่าเครื่องเรือนที่คุณแม่ตกแต่งให้นั้นน่าเกลียดมาก
เมื่อฉันอายุ 24 ปี คุณแม่พูดคุยเกี่ยวกับแผนการในอนาคตกับคู่หมั้นของฉัน
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการจ้องคุณแม่เขม็งและบ่อกว่า “แม่ อย่ายุ่ง”
เมื่อฉันอายุ 25 ปี คุณแม่จัดงานแต่งงานให้และคุณแม่ก็ร้องไห้ด้วยความยินดีและบอกว่าท่านรักฉันมากเพียงไร
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการย้ายไปอยู่ห่างๆจากคุณแม่เสียเลย
เมื่อฉันอายุ 30 ปี คุณแม่โทรศัพท์มาหาเพื่อแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกว่าวิธีของท่านล้าสมัยเสียแล้ว
เมื่อฉันอายุ 40 ปี คุณแม่โทรศัพท์มาเตือนว่าจะถึงวันครบรอบวันเกิดของญาติคนหนึ่ง
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการบอกว่าฉันยุ่งมากคงไม่มีเวลาไปร่วมงานหรอก
เมื่อฉันอายุ 50 ปี คุณแม่ล้มป่วยและต้องการคนดูแล
ฉันตอบแทนคุณแม่ด้วยการอ่านหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับ “พ่อแม่ในวัยชราเป็นภาระแก่ลูกๆอย่างไรบ้าง” ให้คุณแม่ฟัง

แล้ววันหนึ่ง คุณแม่ก็จากฉันไปอย่างเงียบๆ และทุกสิ่งที่ฉันไม่เคยทำให้คุณแม่ก็ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ในหูเหมือนได้ยินเสียงฟ้าร้อง

คุณแม่เป็นดวงใจของท่าน ขอให้รักท่านมากกว่าที่รักตัวเอง ชีวิตจะไร้ค่าถ้าปราศจากคุณแม่ที่คอยรักคอยห่วงใยเราทุกฝีก้าว

สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น