25/9/51

ไปผิดที่

เหตุฉะนั้นเราจะต้องสนใจในข้อความเหล่านั้นที่เราได้ยินได้ฟังให้มากขึ้นอีก เพราะมิฉะนั้นเราจะห่างไกลไปจากข้อความเหล่านั้น (ฮีบรู 2:1)
 ท่านจงพิจารณาดูตัวของท่านว่าท่านตั้งอยู่ในความเชื่อหรือไม่ จงชันสูตรตัวของท่านเองเถิด (2 โครินธ์ 13:5)
 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกรกฎาคม 2004 ผู้โดยสารบนเที่ยวบินจากมิลานไปเมือง Cagliari ในซาร์ดิเนีย (ทางใต้ของ Gulf of Cagliari ซึ่งเป็นปากทางเข้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) ได้รับทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจุดหมายปลายทางสำหรับเที่ยวบินนั้น เครื่องบินจะไม่ลงจอดที่เมือง Cagliari แต่จะไปลงจอดที่ Alghero แทนซึ่งห่างออกไป 142 ไมล์และต้องใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์อีกประมาณสามชั่วโมงจึงจะถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการ นี่เป็นเที่ยวบินดึกและผู้โดยสารทั้งหมดก็พร้อมที่จะลงที่จุดหมายปลายทางที่ถูกต้องเพื่อกลับบ้านหรือพักค้างคืนในเมืองนั้น แต่ผู้จัดการของสายการบิน AirOne ซึ่งเป็นสายการบินของอิตาลีก็ตัดสินใจที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่ปลายทางใหม่โดยมิได้แจ้งผู้โดยสารให้ทราบจนกระทั่งบินมาได้ครึ่งทางแล้วจึงประกาศให้ทราบทั่วกัน สาเหตุที่ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นเพราะทางวิ่งที่สนามบิน Cagliari ปิดในคืนนั้นเพื่อซ่อมบำรุง ด้วยเหตุนี้ศาลจึงตัดสินว่าผู้จัดการทั้งสองคนและนักบินทำผิดฐานหลอกลวง และมีการอุทธรณ์การชะลอการลงโทษเกิดขึ้น
 เราคงพอจินตนาการได้ว่าผู้โดยสารบนเที่ยวบินนั้นจะคับข้องใจสักแค่ไหนเมื่อพบว่าตัวเองต้องไปลงที่อีกเมืองหนึ่งซึ่งอยู่อีกปลายหนึ่งของเกาะ มันเป็นช่วงดึกและก็มีการวางแผนไว้หมดแล้ว จะโทรศัพท์ไปหาใครได้ยามดึกดื่นปานนั้น จะทำอะไรได้ในยามนั้น ไม่เคยนึกฝันว่าการเดินทางครั้งนี้จะพาพวกเขาห่างจากจุดหมายปลายทางถึง 142 ไมล์และต้องนั่งรถต่ออีกสามชั่วโมงจึงจะถึงที่หมายที่ต้องการ 
 ท่านล่ะ ท่านกำลังจะไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการหรือไม่ ท่านกำลังไปยังที่ที่พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านไปหรือเปล่า ท่านอยู่บนเที่ยวบินที่ถูกต้องที่กำลังพาไปยังที่ที่ท่านต้องการจะไปหรือไม่ หรือว่า … ชีวิตของท่านกำลังเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่ง 
 น่าเศร้า ที่หลายคนพบว่าชีวิตกำลังเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางที่ไม่ได้ต้องการจะไป เราตั้งใจที่จะทุ่มเทรับใช้พระเจ้าอย่างสุดกำลัง แต่ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็มีบางสิ่งบางอย่างมาหันเหความสนใจของเราไปเสียทางอื่น สำหรับบางคนอาจะเป็น ‘เวลาคุณภาพ’ กับครอบครัวซึ่งหาได้ยาก มันอาจจะปรากฏว่าการใช้เวลากับครอบครัวอย่างสนุกสนานที่ไหนสักแห่งในวันอาทิตย์เป็น ‘เวลาคุณภาพ’ ก็ได้ อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดสามารถแทนที่สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการในชีวิตของเราซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจฝ่ายวิญญาณสำหรับตัวเราเองหรือของครอบครัวได้เลย เราจะพบว่าช่วงเวลาที่น่าจดจำหรือน่าทะนุถนอมที่สุดก็คือเวลาที่เราได้อยู่กับครอบครัวในคริสตจักรซึ่งเป็นชุมชนความเชื่อของเรานั่นเอง
 หากเราต้องการที่จะไปในที่ที่เราต้องการจะไปและอยู่ในที่ที่พระเจ้าทรงต้องการให้อยู่แล้วล่ะก็ เราจำเป็นที่จะต้องทำอย่างที่บันทึกไว้ในพระธรรมฮีบรูที่บอกว่า “เราจะต้องสนใจในข้อความเหล่านั้นที่เราได้ยินได้ฟังให้มากขึ้นอีก เพราะมิฉะนั้นเราจะห่างไกลไปจากข้อความเหล่านั้น” อัครทูตเปาโลได้ให้คำแนะนะที่ยอดเยี่ยมไว้ในพระธรรม 2 โครินธ์เพื่อเป็นแนวทางให้เราดำเนินชีวิตอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องซึ่งกล่าวว่า “ท่านจงพิจารณาดูตัวของท่านว่าท่านตั้งอยู่ในความเชื่อหรือไม่ จงชันสูตรตัวของท่านเองเถิด” บางทีถึงเวลาแล้วกระมังที่เราทุกคนจะต้องชันสูตรตัวเองเพื่อหาตำแหน่งแหล่งที่ของเราในเส้นทางฝ่ายวิญญาณเพื่อให้แน่ใจได้ว่าเรายังตั้งอยู่ในความเชื่ออย่างที่ประกาศตัวไว้หรือไม่ 
ท่านยังดำเนินชีวิตอยู่ในเส้นทางหรือไม่ 
หรือว่า … 

  สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น