23/9/51

เห็นคนเป็นคน

การเห็นคนเป็นคนเกี่ยวข้องกับสำนึกส่วนบุคคล มันเป็นการสื่อสารเกี่ยวกับคุณค่าของคน การทำให้ใครสักคนรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองแทนที่จะเป็นความเวทนาสงสาร การทำให้ใครสักคนรู้สึกว่าเป็นบุคคล มิใช่วัตถุสิ่งของ แผนงาน หรือตัวประหลาด …
 
บางคนกล่าวไว้ว่าการเห็นคนเป็นคน (ตามนัยที่กล่าวไว้ข้างต้น) ทำได้ง่ายๆ เหมือนการสบตากัน ทำได้โดยตรงเหมือนการพูดคุยกัน เพียงแค่การถามคำถามเป็นครั้งเป็นคราวก็สามารถสื่อจากใจถึงใจได้แล้ว การทำให้ใครบางคนรู้สึกถึงคุณค่าความเป็นคนเป็นสิ่งที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่มันมีความหมายมากมายเหลือเกินสำหรับใครบางคน เพราะมันหมายถึงการเป็นที่ยอมรับในความเป็นคนของเขา  
 
เราคงจะไม่ใช่แม่ชีเทเรซาคนต่อไปหรือเป็นใครสักคนที่จะยอมสละบ้านที่อบอุ่นแล้วไปอาศัยคลุกคลีอยู่กับคนจรหมอนหมิ่นที่ข้างถนนเป็นแน่ แต่เราสามารถที่จะใส่ความรักลงไปในการให้และการเอาใจใส่ดูแลของเราได้ที่ทำให้ผู้รับรู้สึกได้ว่าคุณค่าแห่งความเป็นคนของเขาได้รับการยอมรับและเป็นที่ตระหนัก เราอาจออกไปหยิบยื่นน้ำใจด้วยตัวเอง เราอาจสละเวลาของเรา เราอาจสละเงินทองของเรา เราอาจแม้กระทั่งพูดคุยกับคนเหล่านั้นบ้าง เราอาจแสดงความเคารพในคุณค่าความเป็นคนของพวกเขา เราอาจทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ 
 
แจ็คเป็นคนหนึ่งที่คุณค่าของเขาเป็นที่ยอมรับก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปด้วยการเสพยาเกินขนาด คุณค่าความเป็นคนของเขาเป็นที่ยอมรับแม้กระทั่งในวันที่เขาตกอับ นั่นเอง ประเด็นของเรื่อง ตรงนี้เองที่เป็นบทเรียนสำหรับเราทั้งหลายที่จะเรียนรู้ เรารู้ว่าพระเยซูตรัสสอนให้เราเยี่ยมเยียนผู้ป่วย ให้อาหารแก่ผู้ที่หิวโหย และให้เครื่องนุ่งห่มแก่ผู้ที่เปลือยกายอยู่ และเราทั้งหลายก็ยังรู้อีกว่าลำพังความเชื่อถ้าไม่มีการปฏิบัติก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว (ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ประพฤติตามก็ไร้ผล…ยากอบ 2:17) เช่นนั้นเองที่ทำให้เราส่งการ์ดไปหนุนจิตชูใจผู้ป่วยหรือไม่ก็ไปเยี่ยมเยียนพวกเขาที่บ้านหรือที่โรงพยาบาล (หรืออธิษฐานเผื่ออยู่ที่บ้าน) เราสละเงินทองเพื่อช่วยเหลือ เราบริจาคเสื้อผ้าเก่า และ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการทำดีทั้งสิ้น แต่เราให้ด้วยท่าทีอย่างไร นั่นต่างหากที่สำคัญ 

แจ็คเคยเล่นดนตรี เป็นเจ้าของภัตตาคาร มีครอบครัว แต่หลังจากที่ติดยา ทั้งหมดที่เขามีและทั้งหลายที่เขาเป็นก็หมดไป กลายเป็นคนร่อนเร่และค่ำไหนนอนนั่นอยู่ที่รัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งจอชก็พบกับแจ็คในขณะที่กำลังรับอาหารจากสมาชิกคนหนึ่งของคริสตจักรซึ่งมีความเป็นห่วงเป็นใยผู้ขัดสน นั่นเป็นครั้งแรกที่จอชพบกับแจ็ค หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เรียนรู้ที่จะรู้จักกันให้มากขึ้น ต่อมาจอชขนานนามแจ็คว่า ‘ศาสตราจารย์แจ็ค’ เพราะจอชได้เรียนรู้มากมายจากแจ็คนั่นเอง 

แจ็คเริ่มเป็นพี่เลี้ยงของจอช เขาสอนจอชหลายสิ่งหลายอย่าง บทเรียนที่ได้เรียนรู้มานั้นมีมากมายจนสามารถรวบรวมได้เป็นเล่มหนังสือทีเดียว บทเรียนสำคัญเริ่มต้นตั้งแต่แรกของสัมพันธภาพที่ก่อตัวขึ้น แจ็คสอนเหมือนบรมครูนับจากโมเสสถึงโซกราตีส เขาเปิดรับการซักถาม ดังนั้นจอชจึงมีกล้าที่จะถามว่าผู้คนที่มีความตั้งใจดีที่มีใจเมตตาสามารถทำที่จะทำให้เกิดความแตกต่างอย่างแท้จริงสำหรับคนขัดสนและคนร่อนเร่ แจ็คตอบว่า “ทำให้พวกเรารู้สึกว่ามีตัวตน พวกเราต่างก็อยากที่จะรู้สึกว่าเราเป็นคนเหมือนคนอื่นๆ รับรู้การมีอยู่ของพวกเรา พูดคุยกับพวกเรา ใช้เวลาอยู่กับพวกเรา ช่วยให้พวกเรารู้สึกว่าเรามีคุณค่าของความเป็นคน มันไม่ใช่แค่การหยิบยื่นอาหารหรือเสื้อผ้าให้เท่านั้น มันเป็นการมองเห็นคุณค่าของความเป็นคนของพวกเรา” 

[พระเยซูตรัสว่า] จงให้แก่ทุกคนที่ขอจากท่าน และถ้าใครได้ริบของของท่านไป อย่าทวงเอาคืน จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน แม้ว่าท่านทั้งหลายรักผู้ที่รักท่านจะทรงนับว่าเป็นคุณอะไรแก่ท่านถึงแม้คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายทำดีแก่ผู้ที่ทำดีแก่ท่านจะทรงนับว่าเป็นคุณอะไรแก่ท่านเพราะว่าคนบาปก็กระทำเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายให้ยืมเฉพาะแต่ผู้ที่ท่านหวังจะได้คืนจากเขาอีกจะทรงนับว่าเป็นคุณอะไรแก่ท่านถึงแม้คนบาปก็ยังให้คนบาปยืมโดยหวังว่าจะได้รับคืนจากเขาเท่ากัน แต่จงรักศัตรูของท่านทั้งหลายและทำการดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืนอีก บำเหน็จของท่านทั้งหลายจึงจะมีบริบูรณ์ และท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุดเพราะว่าพระองค์ยังทรงโปรดแก่คนอกตัญญูและคนชั่ว ท่าน ทั้งหลายจงมีความเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา (ลูกา 6:30-36)

ข้าพเจ้าหวังว่าเราทั้งหลายคงจะปฏิบัติต่อผู้ขัดสนหรือผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเราอย่างถูกต้องตามหลักพระคัมภีร์ ทำให้การให้ของเราเป็นพรทั้งผู้รับและผู้ให้ (คือตัวเราเอง) ข้าพเจ้าคิดว่ามันคงไม่ยากเกินทำ การให้ด้วยท่าทีที่ถูกต้อง แม้สิ่งของที่ให้จะด้อยค่า แต่มากด้วยคุณค่า 

สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น