25/9/51

ฉากปิด…ฉากเปิด

วิถีชีวิตของแต่ละคนได้เรียนรู้จากบทเรียนมากมาย หลากแบบ หลายรสชาติ เศร้าระคนสุขสลับกันไป เมื่อบทหนึ่งปิดฉากลง อีกบทหนึ่งก็เริ่มต้นขึ้น บางที… ฉากปิดของคนหนึ่งเป็นฉากเปิดของอีกคนหนึ่งในบริบทเดียวกัน …
 
ครอบครัวหนึ่งมีลูกชายวัยเจ็บขวบที่มีเนื้องอกในสมองและเป็นเนื้อร้าย วันนั้นเป็นวันที่หนูน้อยแจ็คมารับเคมีบำบัดเป็นครั้งสุดท้ายของคอร์สแรก พวกเขานำขนมเค็กมาด้วยเพราะแผนกเคมีบำบัดจะจัดงานเลี้ยงให้สำหรับการสิ้นสุดคอร์สแรกของการให้เคมีบำบัดของแจ็ค
 
หลังจากที่แจ็คสะอึกอยู่นานเนื่องจากระบบภูมิต้านทานต่ำมากจากการที่เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เคมีบำบัดครั้งสุดท้ายของคอร์แรกก็ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายที่อ่อนแอบอบบางของเขา หลังจากนั้นงานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้น
 
เมื่อฉากชีวิตบทหนึ่งของครอบครัวนี้ปิดลง ฉากชีวิตบทใหม่ของอีกครอบครัวหนึ่งก็เปิดขึ้นด้วยการนำลูกชายวัยสี่เดือนมารับเคมีบำบัดหลังจากที่แพทย์ได้ผ่าตัดเนื้องอกในไตออกแล้ว แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อร้ายจะถูกกำจัดให้หมดไปจากร่างกายอย่างสิ้นเชิงจริงๆ หนูน้อยจำเป็นต้องรับการรักษาแบบเคมีบำบัด
 
คุณแม่พร้อมด้วยลูกชายตัวน้อยอันเป็นแก้วตาดวงใจและสามีเดินเข้าไปในแผนกเคมีบำบัดที่กำลังชุลมุนอยู่กับการจัดงานเลี้ยงให้แจ็ค หลังจากที่มีการแนะนำให้รู้จักกันแล้ว สองสามีภรรยาก็ไปนั่งรอ คุณแม่ของแจ็คก็มองไปที่คุณแม่คนนี้ที่กำลังนั่งรออยู่ (อย่างที่เธอเคยนั่งรอมาแล้ว) และเบนสายตาไปรอบๆ ห้องนั้นซึ่งเต็มไปด้วยเด็กๆ ที่มีสายยางห้อยระโยงระยาง เด็กเหล่านั้นยิ้มแย้มและเล่นตามประสาเด็ก น้ำตาของเธอก็เอ่อล้นเต็มดวงตาทั้งสองข้าง เธอเต็มตื้นด้วยความรู้สึกกับภาพที่เห็นต่อหน้าและสิ่งที่เธอได้เจอะเจอมาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ความคิดเตลิดไปไกลถึงความรู้สึกของคนร่วมชะตากรรมเดียวกันว่า คุณแม่คนนี้พาลูกน้อยวัยสี่เดือนมาตรวจร่างกายตามปกติ และแล้ว…วันรุ่งขึ้นก็ต้องพาลูกกลับมาที่โรงพยาบาลอีกเพื่อเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอก ฉับพลันนั้นเองก็พบว่าตัวเองได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำไปว่ามีชุมชนแบบนั้น…หากว่าลูกชายของเธอไม่มีก้อนเนื้องอกขึ้นในไต
 
เธอมองตาคุณแม่ของเด็กน้อยวัยสี่เดือนและพูดกับเธอว่า “สิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณใช่มั้ยคะ” คุณแม่คนนั้นเริ่มร้องไห้ เธอจึงเล่าให้ฟังถึงความกลัวและความรู้สึกของเธอเมื่อลูกชายเริ่มการรักษาแบบเคมีบำบัด หลังจากนั้นเธอก็แบ่งปันกำลังใจและการหนุนน้ำใจที่ได้รับผ่านเพื่อนและพระพรของพระเจ้าที่ซ่อนอยู่ในความทุกข์ยากนั้น เธอแบ่งปันเกี่ยวกับความรักและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงสามารถทำให้เกิดผลดีได้ในทุกสิ่ง เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็เริ่มร้องไห้ด้วยเช่นกัน คุณแม่สองคนร้องไห้เพราะลูกชายของตน คนหนึ่งร้องไห้เพราะลูกกำลังเข้าไปสู่ชุมชนเคมีบำบัด อีกคนหนึ่งร้องไห้เพราะลูกกำลังจะออกจากชุมชนนั้น

เธอซาบซึ้งใจจนอยากกู่ร้องให้ก้องโลกว่า “หากว่าพวกคุณรู้ว่าฉันทุกข์ใจแค่ไหน…กลัวและโกรธแค่ไหน…การที่ใครสักคนซึ่งเลือกทำบาปมานานแสนนานสามารถมีถ้วยแห่งความชื่นชมยินดีที่ไหลล้นอยู่ มีความปรารถนาที่จะยึดถือพระคำของพระเจ้า น้ำตาที่พระเจ้าทรงนับไว้ และความแน่ใจในชีวิตนิรันดร์ คุณสามารถได้เหมือนที่ฉันได้ มีอย่างที่ฉันมี พระเจ้าทรงกำลังรอคอยที่จะอวยพระพรให้แก่คุณ ขอให้มองดูที่จอมกษัตริย์แห่งสง่าราศี พระผู้สร้าง พระเจ้าผู้ทรงรักจิตวิญญาณของคุณ จงมอบใจของคุณให้พระองค์เถิด แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจอย่างแน่นอน” 

เธอสรรเสริญพระเจ้าว่า

ขอบพระคุณพระเจ้า สรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทรงสามารถเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นความชื่นชมยินดี เพราะการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณของพระองค์ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ซึ่งสุดวิสัยที่จะทำได้เอง และทำให้มีชีวิตอยู่ในพระองค์ 

เธอเทใจร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า มิใช่เพราะการรักษาด้วยเคมีบำบัดของลูกชายสิ้นสุดลงแล้ว แต่เพราะว่าความสัตย์ซื่อของพระองค์ในทุกขณะของทุกวันบนเส้นทางที่ครอบครัวของเธอต้องเผชิญต่างหาก และทุกวันทั้งก่อนและหลังความทุกข์ทรมานใจ พระองค์ทรงประเล้าประโลมใจเธออย่างแท้จริง

อีกสองสัปดาห์ครอบครัวนี้ก็จะรู้ผลแน่ชัดว่าเนื้องอกในสมองของแจ็คฝ่อหมดแล้วหรือไม่ หรือว่าจำเป็นที่จะต้องให้เคมีบำบัดต่อไป แต่ขณะนี้…ในห้องนี้…เธอสนุกกับงานเลี้ยง และมีความปีติยินดีในพระบิดา และรู้ว่าเธอมิได้ต่อสู้อยู่บนเส้นทางนั้นอย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง

ท่านเชื่อหรือไม่ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้นพระเจ้าทรงอนุญาต ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเลวร้ายสักปานใด (ในความรู้สึกของท่าน) ก็ตาม แต่ในนั้นจะมีพระพรของพระเจ้าซ่อนอยู่เสมอ หาสิ…หาพระพรนั้นให้พบ พระเจ้าทรงมีทางออกให้เสมอ อธิษฐานสิ…แล้วจะพบคำตอบ

เชื่อวางใจพระเจ้า ถ่อมใจลงและยอมรับน้ำพระทัยของพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่ง แล้วท่านจะได้รับการชูใจและรู้ว่าพระพรที่ซ่อนอยู่นั้นหอมหวานเพียงไร

สิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น