พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยสำหรับประชากรของพระองค์แต่ละคนแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าน้ำพระทัยนั้นจะเป็นอย่างไร ก็เป็นสิ่งดีล้ำเลิศสำหรับคนๆ นั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น เส้นทางการดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณของแต่ละคนก็ย่อมเป็นคนละแบบคนละอย่างกัน บางคนอยู่บนเส้นทางที่ราบเรียบดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่มีประสบการณ์สุขหรือทุกข์แบบสุดขั้ว ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น บางคนก็อยู่บนเส้นทางที่แสนขรุขระ เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม พบเจอสิ่งกีดขวางที่ต้องก้าวข้ามเรียงรายอยู่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนบางคนอาจอยู่บนเส้นทางที่มีหลายอารมณ์และชิมหลากรสชาติ ทั้งสุขและทุกข์ปะปนคละเคล้ากันไป แต่ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแบบใดก็ตาม ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางนั้นๆ อาจต้องกระทำพันธกิจบางอย่างที่มิใช่การอุทิศถวายตัวโดยความตั้งใจ แต่เป็นการทรงเรียกจากพระเจ้า เป็นหน้าที่ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้เฉพาะตัว บางคนอาจได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้าในการเรียกครั้งแรกเลย เสียงเรียกนั้นดังพอที่จะได้ยิน แต่สำหรับบางคนพระเจ้าอาจต้องเรียกซ้ำหลายๆ ครั้ง บางทีอาจเป็นเพราะเสียงเรียกของพระเจ้าไม่ดังพอที่จะได้ยิน บางทีอาจเป็นเพราะคนนั้นจงใจทำแชเชือน อาจเป็นเพราะได้ยินแล้วล่ะ แต่กำลังหาทางบิดพลิ้ว กำลังพยายามหาวิธีที่จะต่อรองกับพระเจ้าอยู่ก็เป็นได้
ท่านล่ะ เมื่อการทรงเรียกมาถึง … จะขานรับไหม
ผู้อุทิศถวายตัวเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาคนหนึ่งถูกเรียกให้ไปทำงานในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมือง การฆ่ากันตายรายวันดูเหมือนเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นี้ การลอบวางระเบิดในพื้นที่ก็เป็นสิ่งที่ต้องเจอะเจอ เขารู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าการงานของเขาจะมีอุปสรรคที่ต้องเอาชนะเรียงรายอยู่บนถนนแห่งการรับใช้มากมาย ช่องทางการกระทำพันธกิจของเขาให้สำเร็จตามน้ำพระทัยก็ไม่ได้เปิดกว้างมากนัก แม้กระทั่งอาจถูกข่มเหงบ้างในบางโอกาส หลายคนจะไม่สนับสนุนการทำงานของเขา หลายคนจะไม่ชื่นชอบเขา การแผ่แผ่นดินของพระเจ้าให้กว้างและให้แผ่นดินนั้นมาตั้งอยู่จริงๆ ในพื้นที่ที่เขาทำงานอยู่ก็ดูเหมือนจะเป็นงานที่ยากลำบากเอาการอยู่ เขารู้ว่าพระเจ้าทรงมุ่งหมายให้เขาไปสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้นำคริสเตียนท้องถิ่นให้เห็นเป็นรูปธรรม ภาระที่รออยู่เบื้องหน้าคล้ายจะหนักเกินแบกรับได้
ถ้าคนนั้นเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไร …
อนุชนคนหนึ่งทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง บางทีเธออาจเป็นผู้เชื่อคนเดียวในสถานทำงานแห่งนั้น วันหนึ่งเธอก็รู้ว่าเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งซึ่งค่อนข้างใกล้ชิดกับเธอมีส่วนพัวพันกับการทรงเจ้าเข้าผีเพราะกำลังจะเข้าไปสู่การเป็นร่างทรง เธอต้องใช้ชีวิตประจำวันในที่ทำงานร่วมกับบุคคลนั้นซึ่งรวมถึงการไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันบ่อยๆ ในบางครั้งยังต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกันและในบางโอกาสจำเป็นต้องใช้ห้องพักในโรงแรมห้องเดียวกันอีกด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธออยู่ในสนามรบฝ่ายวิญญาณ เท่าที่จำได้เป็นครั้งที่สามแล้ว ครั้งแรกเป็นบริบทในที่ทำงานอีกแห่งหนึ่ง แต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกภูติผีเป็นหัวหน้างานของเธอเอง โดยที่บุคคลนั้นเป็นร่างทรง ครั้งที่สองเกิดขึ้นในโรงแรงแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพมหานครนี้เอง แต่คนของพระเจ้าย่อมได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้าเสมอ เมื่อเธอก้าวเข้าไปในห้องพักก็รู้สึกอึดอัดเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว สัมผัสได้ตลอดเวลาว่ามีคนจ้องมองเธออยู่ (ข้าพเจ้าขอแนะนำว่าถ้าท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ขอให้เปลี่ยนห้องพักทันที และทุกครั้งที่ท่านพักแรมที่ใดก็ตาม เมื่อเข้าไปในห้องพักแล้วให้อธิษฐานทูลขอการคุ้มครองจากพระวิญญาณให้พ้นจากวิญญาณชั่วทั้งหลาย) แต่เมื่อเธอเข้านอนก็ถูกวิญญาณชั่วรบกวนจนเธอทนไม่ได้ต้องไปขออาศัยนอนกับเพื่อนในอีกห้องหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอได้สู้รบกับวิญญาณชั่วมาหลายครั้ง (อย่างน้อยสามครั้ง) จนทำให้คิดว่าบางทีพระเจ้าอาจกำลังเรียกเธอให้ทำสงครามฝ่ายวิญญาณในแนวหน้าของสนาบรบก็ได้ ซึ่งหากจะอยู่ในแนวหน้าจริงๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องออกมาเป็นผู้รับใช้เต็มตัวทำงานรับใช้เต็มเวลา เพราะผู้เชื่อทุกคนกำลังกระทำพันธกิจของพระเจ้าในหน้าที่การงานที่กำลังทำอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ถ้าคนนั้นเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไร …
ข้าพเจ้ามีข้อหนุนใจมาฝากหลายข้อ ดังนี้
- สิ่งที่ท่านเป็นอยู่ในตอนนี้เป็นของประทานจากพระเจ้า แต่สิ่งที่ท่านจะเป็นต่อไปเป็นของขวัญที่ท่านจะมอบให้กับพระเจ้า
- ท่านจะไม่มีวันอยู่ในที่ที่พระเจ้าทรงมิได้สถิตอยู่ที่นั่น และที่ใดที่พระองค์ทรงประทับอยู่ กิจการทุกอย่างจะสำเร็จลงด้วยดี
- ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของท่าน จงรู้เถิดว่าพระเจ้าทรงกำลังอ้าแขนรอท่านอยู่
- พระเจ้าทรงสัญญาว่าท่านจะไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยแน่นอน แต่มิได้ตรัสว่าเส้นทางสู่จุดหมายนั้นจะเงียบสงบ
- น้ำพระทัยของพระเจ้าจะไม่มีวันนำท่านไปในที่ที่ไม่มีการคุ้มครองจากพระคุณของพระเจ้า
- การงานที่ท่านจะทำไม่ยากเกินฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้าที่อยู่เบื้องหลังท่าน
- ท่านทำหน้าที่ของท่าน พระเจ้าจะทรงดูแลท่านเอง
ท้ายสุดข้าพเจ้าอยากขอกล่าวสรุปว่า พระเจ้าทรงมีพระประสงค์และแผนการสำหรับแต่ละคนที่ไม่มีใครอื่นสามารถทำให้สำเร็จได้ เมื่อภาระที่รับผิดชอบหนักอึ้งจนแทบแบกไม่ไหว ขอให้มอบภาระนั้นไว้กับพระเจ้าเถิด เพราะไม่มีสิ่งใดยากเกินพระปัญญาของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดหนักเกินพระกำลังของพระองค์
เมื่อการทรงเรียกมาถึงตัวท่าน … ท่านจะขานรับไหม
สิธยา คูหาเสน่ห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น