21/1/54

ลาก่อน... เพื่อนรัก (บทความพิเศษ)


ลาก่อน... เพื่อนรัก
(เพื่อระลึกถึงคุณกมล พฤกษฑลกุล)

การบอกลากันเป็นเรื่องยาก การบอกลาสำหรับข้าพเจ้ามีสามแบบ หนึ่ง การบอกลาเมื่อพบหน้ากันแล้วและต้องแยกย้ายกันไป สอง การบอกลาเมื่อไปเยี่ยมใครบางคนและต้องเดินทางกลับ (กรณีอยู่กันคนละที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนละประเทศ) และ สาม การบอกลาชั่วนิรันดร์เมื่ออีกคนเดินทางกลับบ้านถาวรของเขา

สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากแบ่งปันเป็นเพียงความทรงจำช่วงหนึ่งในชีวิตกับเพื่อนรักที่มีชื่อว่า กมล พฤกษฑลกุล แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเรียกชื่อจริงของเขาเลย เขาคือ "โจ" สำหรับข้าพเจ้าและเพื่อนสนิทบางคนที่มีความทรงจำในวัยเด็กร่วมกัน โจและข้าพเจ้าไปนมัสการที่คริสตจักรเดียวกันเมื่อวัยเด็กจนกระทั่งเขาย้ายมาปักหลักลงฐานที่สหรัฐอเมริกา เราสนิทกันมาก เป็นเพื่อนบ้านกัน ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง เข้าค่ายโบสถ์ด้วยกัน ใช้ชีวิตประจำวันด้วยกันหลังเลิกเรียน โจเรียกตัวเองว่า "ไอ" และเรียกข้าพเจ้าว่า "ยู" และข้าพเจ้าก็ทำในทำนองเดียวกัน

เนื่องจากโจไม่ใช่คนเทคโนโลยี เราก็เลยไม่ได้ติดต่อกันด้วยอีเมล์ หลังจากที่โจเดินทางมาอยู่ที่แอลเอแล้ว ก็มีโอกาสพบกันเมื่อเขาเดินทางไปประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งการพบแต่ละครั้งก็สั้นๆ เพราะเขามีธุระมาก ทุกครั้งที่พบกันความเป็นเพื่อนก็เหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกห่างเหินจากการไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน เขาเป็นคนสม่ำเสมอมาก ในด้านหนึ่งที่บอกได้คือเขาส่งการ์ดอวยพรวันคริสตมาสให้ข้าพเจ้าทุกปี และข้าพเจ้าก็ทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีโดยการไม่ส่งตอบกลับไป (ตอนนี้ก็หมดโอกาสแล้วแม้ว่าจะกลับตัวกลับใจที่จะส่งตอบกลับไปบ้าง) แต่ปีที่ผ่านมา (คริสตมาส 2010) แปลก ไม่ได้รับการ์ดจากโจเลย ได้แต่ของหลานซึ่งเขาไม่รู้ที่อยู่และส่งมาเพื่อให้ข้าพเจ้าส่งต่อเท่านั้น ก็ยังคิดขำๆ ว่าโจคงเบื่อที่จะส่งให้แล้ว เพราะไม่เคยส่งตอบกลับไปเลย (ขอโทษนะ โจ) ต่อไปก็ไม่มีการ์ดจากโจอีกแล้ว

ข้าพเจ้าทราบข่าวการจากไปของโจจากหลานซึ่งได้รับข่าวมาอีกทอดหนึ่ง พวกเราที่ประเทศไทยยังไม่ปักใจเชื่อและสงสัยว่าเป็นการเล่นตลกของใครบางคนหรือเปล่า แต่ข่าวแบบนี้ไม่น่าจะมีใครแผลงเล่นตลก ใจหนึ่งก็เชื่อแล้ว แต่ก็ยังต้องการการยืนยัน ข้าพเจ้าก็พยายามติดต่อกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่อยู่อเมริกาและสนิทกับโจเหมือนกัน เขาก็ไม่รู้เรื่อง และบอกว่ายังคุยโทรศัพท์กับโจเมื่ออาทิตย์ก่อนอยู่เลย แต่หลังจากนั้นก็ได้รับการยืนยันจากเพื่อนที่แอลเอว่าโจจากไปแล้วจริงๆ เราต่างก็พูดไม่ออกกับการจากไปอย่างกระทันหันของเพื่อนรักคนนี้

ข่าวบอกว่าหัวใจวาย แต่ข้าพเจ้าก็ยังได้ข่าวมาอีกหลายกระแสเกี่ยวกับสาเหตุของการจากไปของเขา เพื่อให้แน่ใจข้าพเจ้าจึงพยายามหาทางติดต่อกับพี่ชายของเขา และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็สามารถติดต่อกับพี่ชายคนที่สองของเขา และก็ได้ทราบว่าผลจากการชันสูตรศพบอกว่าเนื่องจาก ruptured aorta เมื่อโจไม่ได้ไปเล่นเปียโนที่โบสถ์ในเช้าวันที่ 2 มกราคม พี่ชายก็ตามไปดูที่บ้านและพบว่าโจเสียชีวิตแล้วและไม่ทราบว่าเสียชีวิตนานแค่ไหนแล้ว แม้ว่าโจจะจากไปตามลำพัง แต่ข้าพเจ้าแน่ใจว่าเขาไม่ได้เดินทางกลับบ้านคนเดียวอย่างแน่นอน ทูตสวรรค์ได้นำทางเขากลับไปเพื่อเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และไปพบคุณพ่อคุณแม่ของเขาซึ่งเดินทางล่วงหน้าไปคอยอยู่แล้ว

สำหรับเราซึ่งยังคงจาริกอยู่ในโลกนี้ก็คงจะรู้สึกอาลัยกับการจากไปของโจ แต่มันเป็นการจากไปที่แฝงด้วยความชื่นชมยินดี เพราะที่ที่โจไปอยู่ย่อมดีกว่าที่ที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน สักวันหนึ่งเราก็จะได้พบหน้ากันอีก แล้วพบกันนะเพื่อนรัก

ข้าพเจ้าไม่คิดว่าการบอกลาเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว (2010) จะเป็นการบอกลาแบบที่สองและสามสำหรับโจและข้าพเจ้า ครอบครัวของข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบกับโจเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว เขาพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารและหลังอาหารเขาก็พาสามีและข้าพเจ้าไปที่บ้าน เขาชงชาให้เรา (ซึ่งข้าพเจ้ายังหยอกเล่นว่าทำเป็นด้วยหรือ) เราคุยกันอย่างสนุกสนาน เป็นเวลาที่น่าจดจำอีกช่วงหนึ่งในชีวิต หลังจากนั้นเขาก็ขับรถไปส่งเราที่โรงแรม ข้าพเจ้าเป็นห่วงเพราะเขาขับรถเร็ว ยังเตือนเขาให้ระวังตัวด้วย ข้าพเจ้าบอกเขาว่าจะเดินทางต่อไปนิวยอร์กและจะอยู่ที่นั่นกับลูกสาวคนเล็กสองเดือน ระหว่างที่ข้าพเจ้าอยู่ที่นิวยอร์กก็ได้มีโอกาสคุยกับโจหลายครั้งด้วยกัน แต่ข้าพเจ้าไม่ได้โทรศัพท์ไปบอกเมื่อถึงกำหนดต้องเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อข้าพเจ้าเดินทางกลับมาแล้ว โจก็โทรศัพท์มาที่บ้านเพื่อถามว่าข้าพเจ้าเดินทางกลับมาหรือยัง นี่ก็เป็นความน่ารักอีกอย่างหนึ่งของเพื่อนรักคนนี้ มีความห่วงใยอยู่เสมอ

ตอนนี้ไม่มีโจแล้ว รู้สึกใจหายที่คนอันเป็นที่รักจากไปอีกคน เราไม่รู้จริงๆ ว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเรากลับบ้านเมื่อไหร่ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม พร้อมทั้งด้านกายภาพและด้านจิตวิญญาณ

ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของโจกับการสูญเสียครั้งนี้ด้วย และก็ร่วมอาลัยกับการจากไปของโจกับเพื่อนๆ และทุกคนที่รู้จักกับเพื่อนรักคนนี้ของข้าพเจ้า มันอาจจะกระทันหันไปนิด แต่เราต้องยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ ให้เราหนุนน้ำใจกันและกัน และให้ความทรงจำของเราแต่ละคนซึ่งต่างกันไปยังคงอยู่ในคลังความคิดของเราตลอดไป

ลาก่อน...เพื่อนรัก จนกว่าจะพบกันอีก

แต่ก่อนที่จบ ข้าพเจ้าคิดว่าโจเพื่อนรักของข้าพเจ้า ครูกมลของนักเรียนทั้งหลาย คุณกมลของเพื่อนๆ น้องกมลของพี่ชายทั้งสอง คงอยากบอกลาเราทุกคน ข้าพเจ้าจึงใช้ความรู้ความสามารถอันน้อยนิดเรียงร้อยถ้อยคำออกมา คิดว่าเขาผู้จากไปคงอยากจะบอกพวกเราว่า


I look down from here and see the people I hold so dear
I wish you'd accept my departure and wipe away the tear
I can see the pain inside your heart that I'm no more awaken
I'm sorry I had to depart , I am sorry it's all too sudden
For now I am here
To be with the Lord and my papa-mama.


I know how much you miss me, I know you hold me dear in your heart
But I am not so far away and we really aren't apart
Just remember me the way I was, love me still the way you do
Please, my dear ones, know that I do want to be with you
But now I am here
To be with the Lord and my papa-mama.

I have no words to tell you, how much joy heaven can bring
For it is beyond description, to hear the angels sing
I sent you each a special gift, from my heavenly home above
I sent you each a memory of my friendly love
Please love and keep each other, as you always do
I will count the blessings God gives each one of you
So be happy for me, my dear ones
For now I am here
To be with the Lord and my papa-mama.



สิธยา คูหาเสน่ห์

หมายเหตุ บทความนี้เป็นบทความพิเศษที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นการบอกลาเพื่อนรักของข้าพเจ้าที่พระเจ้าทรงรับกลับบ้านถาวรของเขา และไม่ได้ตีพิมพ์ในหนังสือข่าวคริสตจักร แต่เขียนเป็นพิเศษให้กับ Peter Dreamland
และได้รับเกียรติลงในหนังสือพิมพ์เสรีชัยซึ่งวางขายทั่วสหรัฐอเมริกาโดยความกรุณาของ คุณปีเตอร์ ปัญญาชน ที่ส่งต้นฉบับไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น