ท่านเคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมพร้ะเยซูต้องมาบังเกิดในโลกนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าหลายคนอาจยังมีคำตอบที่ไม่ชัดเจน และหลายคนอยากย้ำเตือนคำตอบที่มีอยู่แล้ว
พระองค์ทรงให้คำตอบไว้แล้วว่า “…เราจึงเกิดมาและเข้ามาในโลกเพื่อเป็นพยานให้แก่สัจจะ...” (ยอห์น 18:37ข)
พระเยซูมิได้ตรัสว่าพระองค์ทรงบังเกิดมาเพื่อเทศนาหรือรักษาโรค แต่พระองค์เสด็จมาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานให้แก่สัจจะ
พระเยซูยังทรงประกาศว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต…และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท” (ยอห์น 14:6ก; 8:32)
พระเยซูเสด็จเข้ามาในโลกโดยนำข้อความที่มีความสำคัญยิ่งยวดมา นั่นคือ พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้าง พระผู้ค้ำจุน และพระผู้ไถ่ จะเห็นพระบิดาได้ เราต้องมองที่พระบุตรของพระองค์
ฉะนั้น ที่พระเยซูทรงบังเกิดมาในโลกก็เพื่อให้เรารู้จักพระเจ้า นี่เองที่เป็นเหตุผลของฉลองวันคริสตมาสด้วยความชื่นชมยินดีปีแล้วปีเล่า
จากข้อความยิ่งใหญ่ที่พระเยซูทรงนำมานั้น พระองค์ทรงมอบความรับผิดชอบให้แก่เราที่จะแบ่งปันกับคนอื่นๆ “ท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเรา… จนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (กิจการ 1:8ข) วิญญาณนับล้านๆ ดวงต้องการข้อความที่ให้ชีวิตนั้น…ข่าวประเสริฐ
คริสตมาสเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองความรักของพระเจ้าที่มีให้แก่เราแต่ละคน วิธีที่เราสามารถทำได้อย่างดีที่สุดคือการมอบของขวัญให้แก่พระเยซู—ของขวัญแห่งความรักและการขอบพระคุณ มันเป็นเวลาที่เราสามารถหยุดและระลึกถึงผู้ที่ถูกลืมบ่อยครั้ง เราสามารถที่จะออกไปช่วยเหลือเขาเหล่านั้นซึ่งมีความขาดแคลนในหลายๆ ด้าน…การแบ่งปัน
สิ่งเหล่านี้มิเพียงทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามีความพึงพอใจเป็นอย่างมากด้วย คริสตมาสมิได้มีความพิเศษด้วยของขวัญต่างๆ ที่มอบให้แก่กัน การตกแต่งประดับประดาอย่างงดงาม และงานเลี้ยงรื่นเริงต่างๆ แต่ด้วยสิ่งที่เรามอบแด่พระเยซูและผู้อื่นจากใจของเราต่างหาก การให้ด้วยใจแสดงให้เห็นการรู้คุณที่แท้จริงและความซาบซึ้งใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อเราทั้งหลาย
ที่พระเยซูมาบังเกิดนั้นเพราะพระองค์ทรงรักเราทั้งหลาย พระองค์ทรงละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงมีทั้งพระอำนาจ พระสิริ และความโอ่อ่าตระการของสวรรค์เพื่อมาไถ่บาปของมนุษยชาติและช่วยให้รอดเพื่อได้ชีวิตนิรันดร์ พระองค์ทรงมุ่งหวังจะได้รับของขวัญที่มีค่ายิ่งจากเรา นั่นคือ ความรักของเรา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและทรงเป็นมนุษย์ จอมกษัตริย์และทาสผู้รับใช้ พระองค์ทรงสละบัลลังก์นิรันดร์บนสวรรค์และทรงสวมสภาพมนุษย์อย่างต่ำต้อยบนโลก พระองค์ทรงดำเนินชีวิตท่ามกลางเราทั้งหลายเพื่อช่วยเราทั้งหลายให้รอดและได้ชีวิตนิรันดร์
พระองค์ทรงเริ่มต้นโซ่แห่งความรักไว้นานแล้วตั้งแต่วันคริสตมาสแรก และพระองค์ทรงพึ่งพาเราให้สานต่อการส่งต่อความรักนั้น ความรอดซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้านั้นมีไว้เพื่อทุกคนที่รับไว้ และพระองค์ทรงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้ทุกคนบนโลกนี้รู้จักพระองค์และรู้ว่าพระองค์ทรงรักพวกเขา ข่าวประเสริฐเรื่องความรักนี้จะต้องส่งต่อไปด้วยการบอกปากต่อปาก ด้วยการออกไปประกาศให้รู้โดยทั่วกัน อย่ายอมให้โซ่แห่งความรักนั้นขาดสะบั้นลง ให้เราต่อโซ่ออกไปให้ยาวที่สุด เราทำได้ด้วยการร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่อเราได้รับความรักของพระองค์ก็ขอให้แบ่งปันความรักนั้นแก่คนอื่นๆ เพื่อเป็นการประกาศความหมายที่แท้จริงของคริสตมาส คนเป็นจำนวนมากต้องการข่าวประเสริฐเรื่องความรอด ดังนั้นขอให้มอบความหมาย ‘ที่แท้จริง’ ของวันคริสตมาสให้แก่พวกเขาด้วยการนำสันติสุขและความสุขและความชื่นชมยินดีแห่งความรักขององค์พระเยซูคริสต์ไปให้
สุขสันต์วันคริสตมาส
สิธยา คูหาเสน่ห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น