เมื่อเข้าใกล้วันอีสเตอร์ ท่านคิดถึงอะไร ใจของท่านมุ่งไปที่การวายพระชนม์และการคืนพระชนม์ขององค์พระเยซูคริสต์หรือไม่ การเสด็จเข้ามาในโลกของพระองค์ก็เพื่อมาไถ่บาปของมนุษยชาติ พระคัมภีร์บอกเราว่าพระเจ้าทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์ (2 โครินธ์ 5:21 ฉบับมาตรฐาน 2002) พระเยซูทรงแน่พระทัยสำหรับจุดมุ่งหมายแห่งการเสด็จมาช่วยคนบาปให้รอดจนกระทั่งทรงคาดการณ์การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไว้ล่วงหน้าแล้ว (มัทธิว 26:2 ฉบับมาตรฐาน 2002)
ท่านคิดว่าจุดมุ่งหมายของท่านในฐานะที่เป็นสาวกของพระเยซูคืออะไร
บางคนอาจตอบว่าคือการรักพระองค์ คนอื่นๆ อาจบอกเป็นอย่างอื่นว่าคือการรับใช้พระองค์ แต่จริงๆ แล้วจุดมุ่งหมายของมนุษย์คือการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า มิใช่หรือ ให้เราอ่านข้อพระวจนะในฮีบรู 12:2 กันสักหน่อย "โดยจับตามองที่พระเยซูผู้บุกเบิกความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงสู้ทนต่อไม้กางเขนเพื่อความยินดีที่มีอยู่ต่อหน้าพระองค์ ทรงถือว่าความอับอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญ และพระองค์ประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า" (ฉบับมาตรฐาน 2002)
พระเยซูทรงทอดพระเนตรนอกเหนือการทนทุกข์ทรมานและการสิ้นพระชนม์ที่พระองค์ทรงรู้ว่าจะเกิดขึ้นและทรงเพ่งมองที่ความชิื่นชมยินดีที่จะเกิดขึ้นตามมา
ท่านคิดว่าความชื่นชมยินดีแบบใดหรือที่เป็นแรงจูงใจให้พระองค์ทรงยอมพลีพระชนม์เพื่อคนบาป
พระคัมภีร์บอกเราว่าจะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลางพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าเรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ (ลูกา 1:510 ฉบับมาตรฐาน 2002) ในทำนองเดียวกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้บำเหน็จแก่การดีที่เราทำและมีความชื่นชมยินดีเมื่อพระองค์ตรัสว่า "ดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์" ฉะนั้น พระเยซูทรงมุ่งหวังความชื่นชมยินดีที่จะเกิดขึ้นเมื่อแต่ละบุคคลกลับใจและได้รับความรอด พระองค์ยังทรงรอคอยความชื่นชมยินดีที่เกิดจากการดีที่ผู้เชื่อทำเพราะเชื่อฟังพระองค์และได้รับการจูงใจจากความรัก
เรารู้จากพระคัมภีร์อีกว่าเรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน (1 ยอห์น 4:19 ฉบับมาตรฐาน 2002) เอเฟซัส 2:1-10 บอกเราว่าโดยวิสัยแล้วเราทั้งหลายกบฎต่อพระเจ้าและตายฝ่ายวิญญาณ แต่โดยความรักและพระคุณนั่นเองที่นำเรามาถึงความเชื่อในพระองค์และการคืนดีกันกับพระองค์ พระองค์ยังทรงจัดเตรียมแผนการทำดีของเราไว้ด้วย (เอเฟซัส 2:10 ฉบับมาตรฐาน 2002)
แล้วจุดมุ่งหมายของเราล่ะ
เราสามารถทำให้พระองค์ทรงมีความชื่นชมยินดีได้ เรามีพระเจ้าที่มหัศจรรย์เหลือหลาย พระเจ้าที่ทรงช่วยคนบาปให้รอด พระเจ้าที่ทรงทำให้เราสามารถทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย พระองค์ทรงชื่นชมยินดีเมื่อเราตอบสนองพระองค์ด้วยการกลับใจ ความรัก และการทำดี นั่นแหละ สิ่งเหล่านี้สามารถนำความชื่นชมยินดีมาให้พระองค์
พระองค์ทรงกำลังรอความชื่นชมยินดีจากเราทั้งหลายอยู่ อย่าชักช้าที่จะทำให้พระองค์ทรงชื่นชมยินดีกันอยู่เลย ไม่นานพระองค์ก็จะทรงเสด็จมาแล้ว เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้ายแล้ว จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกนั้นคงมากพอที่จะเป็นหมายสำคัญของการใกล้เสด็จกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว รีบฉวยโอกาสที่เหลืออยู่ไม่มากแล้วทำการดีกันเถอะ ประกาศข่าวประเสริฐเพื่อช่วยวิญญาณ เตรียมพร้อมรับเสด็จองค์พระเมสสิยาห์
สุดท้ายนี้ขอให้เราซึ่งเป็นผู้ที่พระองค์ทรงรักทั้งๆ ที่เป็นคนบาป ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา รักกันให้มากๆ ระลึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่หาขอบเขตไม่ได้ของพระองค์ และพยายามรักกันให้ได้แบบที่พระเจ้าทรงรักเรา เอื้ออาทรต่อกันให้มาก ห่วงใยกันให้มาก
ข้าพเจ้าเศร้าใจอย่างยิ่งที่เห็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับชาวญี่ปุ่น ใจปฏิเสธว่าไม่ใช่ความจริง ร้องไห้ทุกครั้งที่ดูหรืออ่านข่าว ข้าพเจ้าบอกกับตัวเองว่าความหายนะมันเป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วความหายนะฝ่ายวิญญาณล่ะมันจะน่ากลัวกว่านี้สักกี่เท่า มันคงเป็นระดับที่เกินความเข้าใจของเราอย่างแน่นอน
สิธยา คูหาเสน่ห์