..การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ...กิจการ 20:35
ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าผู้เชื่อทุกคนคงคุ้นเคยกับพระวจนะข้อนี้ และคงได้รับพระพรผ่านทั้งการให้และการรับมาแล้ว สำหรับส่วนตัวข้าพเจ้าคิดว่าเป็นการยากที่จะวัดว่าพระพรจากการให้มากหรือน้อยกว่าการรับ ข้าพเจ้าคิดว่ามันขึ้นอยู่กับโอกาสและสถานการณ์ของแต่ละบุคคลมากกว่า
และถ้าจะพูดถึงโอกาสแห่งการให้ก็คงมีมากมาย และคิดว่าไม่น่าจะจำกัดเฉพาะโอกาสพิเศษหรือวันเทศกาลเท่านั้น เหมือนการบอกรัก เราสามารถทำได้ตลอดเวลา บางครั้งมูลค่าของสิ่งของที่ให้อาจไม่สำคัญเท่าน้ำใจเพราะมันตีเป็นราคาค่างวดไม่ได้ สิ่งของไม่มีมูลค่าเมื่อให้ด้วยใจก็กลายเป็นสิ่งของล้ำค่าในสายตาของผู้รับได้ น่าเสียดายที่ในยุคนี้น้ำใจหาได้ค่อนข้างยากเสียแล้ว และน่าเสียดายยิ่งกว่าเมื่อผู้รับไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของที่ผู้ให้มอบให้
มีเรื่องเล่าว่าทหารอเมริกันคนหน่ึงขณะที่ขับรถกลับไปยังค่ายพักช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองในกรุงลอนดอนก็มองเห็นเด็กชายกำพร้าคนหนึ่งเอาจมูกแนบกับหน้าต่างกระจกของร้านขายขนมแห่งหนึ่งเพื่อมองเข้าไปในร้าน เด็กชายคนนั้นมองดูทุกอิริยาบถของคนทำขนมในร้านอย่างเงียบๆ ทหารคนนั้นสงสารเด็กชายคนนั้นจับใจ เขาจึงหยุดรถและซื้อขนมโดนัทให้เด็กชายคนนั้นสิบสองชิ้น เมื่อเขายื่นถุงขนมให้ เด็กชายคนนั้นก็จ้องมองด้วยความตะลึงงัน เมื่อทหารคนนั้นหันหลังเดินกลับไปที่รถก็รู้สึกว่ามีคนดึงเสื้อโค้ทของเขา เขาจึงหันไปมองและเห็นเด็กชายคนนั้น เขาถามขึ้นเบาๆ ว่า "คุณคือพระเจ้าหรือครับ"
สิ่งที่ทหารคนนั้นทำไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร ทว่ามันยิ่งใหญ่สำหรับเด็กชายคนหนึ่ง จนเขาถามว่า "คุณคือพระเจ้าหรือครับ" ท่านเคยมีประสบการณ์กับการให้เล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้รับบ้างไหม ข้าพเจ้าเคยหลายครั้ง และทุกครั้งก็มีความรู้สึกผิดปนอยู่กับความรู้สึกแปลกใจด้วย ที่แปลกใจเพราะไม่คิดว่าการให้เล็กๆ ของข้าพเจ้าจะยิ่งใหญ่สำหรับผู้รับ ที่รู้สึกผิดเพราะบอกกับตัวเองว่าสมควรที่จะได้รับความชื่นชมขนาดนั้นจริงล่ะหรือ
แต่การให้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสิ่งของที่จับต้องได้เสมอไป ท่านอาจให้เวลา ความคิด แรงกาย แรงใจ และที่สำคัญที่สุด แรงอธิษฐาน ข้าพเจ้าคิดว่าการทูลขอเผื่อผู้อื่นนั้นเป็นการให้รูปแบบหนึ่งที่ผู้เชื่อทุกคนควรทำทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่ทั้งเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนร่วมโลกกำลังประสบกับการสูญเสียจากภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าเราจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือที่จับต้องได้และไม่อาจใช้แรงกายออกไปช่วยเหลือ แต่เราสามารถทำได้ด้วยการอธิษฐานเผื่อคนเหล่านั้น
วันคริสตมาสก็ใกล้เข้ามาอีกแล้ว ถ้าท่านยังคิดไม่ออกว่าจะมอบอะไรเป็นของขวัญแล้วล่ะก็ ลองมอบคำอธิษฐานดูบ้างสิ เวลาที่องค์พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว อย่ามัวชักช้ากันอยู่เลย อธิษฐานให้หนัก ส่งผ่านความรักออกไปให้มาก ช่วยดวงวิญญาณที่ยังหลงหายให้รอดกันเถอะ
นั่นแหละ การให้เล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่
สุขสันต์วันคริสตมาส
สิธยา คูหาเสน่ห์