29/6/52

ชายแก่ผมยุ่ง

เรื่องราวต่อไปนี้ผู้เขียนนิรนามคนหนึ่งได้ประพันธ์ไว้เพื่อเตือนให้เรารู้ว่าพระเจ้าอาจเรียกใช้เราได้ทุกเมื่อ

หญิงสาวคนหนึ่งนั่งรอขึ้นเครื่องบินอยู่ที่ทางออกในสนามบิน เธอนั่งรวมอยู่กับคนอื่นๆ ที่จะเดินทางไปในเที่ยวบินเดียวกัน เธอหยิบพระคัมภีร์ขึ้นมาและกำลังจะเปิดออกอ่าน ทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกราวกับว่าผู้คนที่นั่งอยู่รอบตัวเธอหันมามองเธอ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วคนเหล่านั้นกำลังมองไปทางด้าน หลังของเธอ

เธอจึงเหลียวหลังไปดูว่าพวกเขากำลังมองดูอะไร แล้วเธอก็เห็นพนักงานหญิงต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่งกำลังเข็นเก้าอี้รถเข็น ที่มีชายแก่ผมยุ่งหน้าตาหน้าเกลียดคนหนึ่งนั่งอยู่ เธอคิดว่าคุณลุงคนนี้เป็นคนที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผมสีขาวบนหัวของชายแก่คนนี้พันกันยุ่ง ใบหน้าเหี่ยวย่น และดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงสนใจชายแก่คนนี้และคิดตั้งแต่แรกที่เห็นว่าพระเจ้าทรง ต้องการให้เธอเป็นพยานกับเขา แต่ในใจของเธอก็มีเสียงพูดว่า “โอ พระเจ้า ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ตรงนี้”

ต่อมาเธอไม่สามารถสลัดชายแก่คนนี้ออกไปจากความคิดของเธอ และทันใดนั้นเองเธอก็รู้ว่าพระเจ้าทรงต้องการให้ทำอะไรกับชายแก่คนนี้ เธอน่าจะช่วยหวีผมให้เขานั่นเอง เธอเดินเข้าไปหาชายแก่คนนั้นและคุกเข่าลงข้างหน้าเขาและพูดว่า “คุณลุงคะ ให้หนูได้รับเกียรติช่วยแปรงผมให้คุณลุงดีไหมคะ” ชายแก่ตอบว่า “หนูพูดว่าอะไรนะ” เธอคิดว่า “โอ หูตึงเสียด้วย” เธอจึงพูดดังขึ้นว่า “คุณลุงคะ ให้หนูได้รับเกียรติช่วยแปรงผมให้คุณลุงดีไหมคะ” ชายแก่คนนั้นตอบว่า “ถ้าจะพูดกับลุง หนูต้องพูดดังๆ หน่อย หูของลุงไม่ดี แทบไม่ยินแล้ว”

ดังนั้น การพูดครั้งที่สามจึงเกือบเป็นเสียงตะโกนด้วยประโยคเดิมว่า “คุณลุงคะ ให้หนูได้รับเกียรติช่วยแปรงผมให้คุณลุงดีไหมคะ” ทุกคนกำลังใจจดจ่อว่าชายแก่จะตอบว่าอะไร เขามองดูหญิงสาวอย่างงงๆ และพูดว่า “ก็ได้ ถ้าหนูอยากทำจริงๆ” หญิงสาวตอบว่า “แต่หนูไม่มีแปรงผมสักอันเลยค่ะ ถึงอย่างงั้นก็ยังอยากช่วยอยู่ดี” ชายแก่จึงบอกแก่หญิงสาวว่า “ดูในกระเป๋าที่แขวนอยู่สิ มีแปรงผมอยู่อันหนึ่งในนั้น”

เธอจึงหยิบแปรงผมออกจากกระเป๋าและเริ่มแปรงผมให้แก่เขา (เธอมีลูกสาวตัวน้อยไว้ผมยาวคนหนึ่ง เธอจึงมีประสบการณ์ในการแปรงผมที่พันกันยุ่งได้อย่างนุ่มนวล) เธอใช้เวลานานพอสมควรทีเดียวในการแปรงผมของชายแก่คนนี้ที่พันกันยุ่งจนเรียบ ร้อย

เมื่อเธอแปรงผมเสร็จก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของชายแก่คนนั้น เธอจึงวางมือไว้บนเข่าทั้งสองข้างของชายแก่คนนั้นและคุกเข่าลงต่อหน้า เธอมองตาของเขาและพูดขึ้นว่า “คุณลุงคะ คุณลุงรู้จักพระเยซูไหมคะ” ชายแก่คนนั้นตอบว่า “รู้จัก สิ เจ้าสาวของลุงบอกว่าถ้าลุงไม่รู้จักพระเยซูก็แต่งงานกับเธอไม่ได้ ลุงจึงเรียนรู้เรื่องราวของพระเยซูและต้อนรับพระองค์นานหลายปีก่อนจะแต่งงาน กับเธอเสียด้วยซ้ำไป”

เขาเล่าต่อว่า “หนูรู้มั้ย ลุงกำลังจะกลับบ้านไปหาภรรยาของลุง ลุงมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเสียนาน ลุงต้องรับการผ่าตัดในเมืองนี้ซึ่งไกลจากบ้านของลุงมาก ภรรยาของลุงมากับลุงไม่ได้เพราะร่างกายของเธออ่อนแรงเต็มทีแล้ว ลุงกังวลมากว่าผมของลุงจะไม่เรียบร้อย ลุงไม่อยากให้ภรรยาของลุงเห็นว่าผมของลุงพันกันยุ่ง แต่ลุงจนปัญญาที่จะทำด้วยตัวเอง”

น้ำตาไหลอาบแก้มที่เหี่ยวย่นของชายแก่คนนั้นขณะที่กล่าวคำขอบคุณหญิงสาวที่ช่วย แปรงผมให้ เขาขอบคุณหลายต่อหลายครั้ง หญิงสาวคนนั้นร้องไห้ ผู้คนที่อยู่ตรงบริเวณนั้นก็ร้องไห้ด้วย เมื่อทุกคนกำลังเดินไปขึ้นเครื่องบิน พนักงานหญิงต้อนรับบนเครื่องบินที่เป็นคนเข็นชายแก่คนนั้นซึ่งก็ร้องไห้ด้วย ถามหญิงสาวว่า “ทำไมคุณทำอย่างนั้นคะ”

นั่นเองที่ประตูแห่งโอกาสสำหรับแบ่งปันความรักของพระเจ้าถูกเปิดออก

เราคงไม่เข้าใจทางของพระเจ้าทุกครั้งไปหรอก เป็นไปไม่ได้ด้วยสติปัญญามนุษย์ แต่ขอให้เตรียมพร้อม พระองค์อาจใช้เราเพื่อสนองตอบความจำเป็นของใครบางคนเมื่อใดก็ได้ ดังที่เห็นได้จากตัวอย่างนี้ พระองค์ทรงสนองตอบความจำเป็นของชายแก่คนหนึ่ง และในขณะเดียวกันก็สำแดงความรักของพระองค์ให้จิตวิญญาณดวงหนึ่งที่ยังหลง หายอยู่ได้ประจักษ์ผ่านหญิงสาวคนหนึ่งที่ไวต่อเสียงเรียกของพระเจ้าและยอม เป็นเครื่องมือที่สำแดงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์

ท่านล่ะ พร้อมไหม

สิธยา คูหาเสน่ห์

4/6/52

การเกิดผลฝ่ายวิญญาณ

ข้าพเจ้าปลูกต้นไม้ไว้หลากหลายพันธุ์ เช้าวันใหม่ของข้าพเจ้าจะเริ่มต้นด้วยการรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกไว้ ข้าพเจ้าใช้ช่วงเวลานั้นเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้สร้างของข้าพเจ้า เวลาที่ใช้ในการรดน้ำต้นไม้แต่ละครั้งนานประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ความชื่นชมยินดี การขอบพระคุณ และการทูลขอ บางครั้งข้าพเจ้าก็ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเท่าที่จำเนื้อเพลงได้ บางคราวก็อธิษฐานทูลขอสำหรับต้นไม้บางต้นที่ดูเหมือนจะมีปัญหาในการเจริญ เติบโต และหลายโอกาสก็พูดคุยกับต้นไม้ต่างๆ ที่ปลูกไว้ มันเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ให้ทั้งความอิ่มตาและความอิ่มใจ อิ่ม ตาที่ได้เห็นความงามในมวลดอกไม้ที่เป็นพระหัตถกิจชิ้นเอกของพระเจ้า อิ่มใจที่ได้ติดสนิทกับพระผู้สร้างและได้สัมผัสกับความรักที่ไร้ขีดจำกัดของพระองค์


ดังนั้น เมื่อมีความจำเป็นต้องจากบ้านจึงมีห่วงอยู่สองเรื่อง หนึ่ง ต้นไม้ สอง สุนัข แต่ตอนนี้หมดไปหนึ่งห่วงแล้วเพราะเจ้าสุนัขเพื่อนยากที่เป็นส่วนหนึ่งของ ครอบครัวมานานเกือบ 12 ปี ลาจากไปแล้วอย่างกระทันหัน มันป่วยและหัวใจวายไปเฉยๆ ต่อหน้าต่อตาในห้องไอซียูที่โรงพยาบาล ก็เหลืออยู่ห่วงเดียวคือเหล่าต้นหมากรากไม้นานาพันธุ์นี่แหละ


อย่างที่เกริ่นไว้แต่ต้นว่าขณะที่รดน้ำต้นไม้ก็จะอธิษฐานสนทนากับพระเจ้าไปด้วย เหมือนกำลังคุยกับพ่อ ข้าพเจ้าแยกประสาทออกเป็นหลายส่วน ทั้งพูดคุย ทั้งชื่นชมความงามที่พระเจ้าทรงสร้างที่มองเห็นได้จากหลากสีสันของมวลไม้ดอก บางครั้งก็มีผีเสื้อสีสวยเป็นตัวประกอบเพิ่มสีสันให้ด้วย ทั้งขอบพระคุณสำหรับสิ่งทรงสร้างที่งดงามเหล่านี้ วันหนึ่งความแตกต่างของการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกลงดินกับที่ปลูกใน กระถางก็กระทบใจของข้าพเจ้าเข้าอย่างจัง ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ ต้นไม้ลงดินซึ่งรากสามารถดูดธาตุอาหารในดินได้อย่างเต็มที่ย่อมเติบโตและผลิ ดอกออกผลมากกว่าต้นไม้ในกระถาง หรือต้นไม้ที่กินอาหารไม่อิ่มเพราะมีวัชพืชคอยแย่งอาหารของมัน นี่เองที่ทำให้เกิดมุมมองฝ่ายวิญญาณเรื่องการเติบโตฝ่ายวิญญาณและการเกิดผล ของพระวิญญาณ


การเจริญเติบโตฝ่ายวิญญาณคือขบวนการที่ทำให้เราเป็นเหมือนพระเยซูมากยิ่งขึ้น เมื่อเรามีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเริ่มขบวนการที่จะทำให้เราเป็นเหมือนพระเยซูมากยิ่ง ขึ้น โดยทรงเปลี่ยนแปลงเราให้เป็นเหมือนพระองค์ (2 เปโตร 1:3-8 อธิบายการเจริญเติบโตฝ่ายวิญญาณไว้เป็นอย่างดี ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้บอกเราว่า ด้วย เห็นแล้วว่าฤทธิ์เดชของพระองค์ ได้ให้สิ่งสารพัดแก่เราที่จะให้มีชีวิตและมีธรรม โดยรู้จักพระองค์ผู้ได้ทรงเรียกเราด้วยพระสิริและความล้ำเลิศของพระองค์ พระองค์จึงได้ทรงประทานพระสัญญาอันประเสริฐและใหญ่ยิ่งแก่เรา เพื่อว่าด้วยเหตุเหล่านี้ ท่านทั้งหลายจะพ้นจากความเสื่อมโทรมที่มีอยู่ในโลกนี้เพราะตัณหา และจะได้รับส่วนในสภาพของพระองค์ เพราะเหตุนี้เองท่านจงอุตส่าห์จนสุดกำลังที่จะเอาคุณธรรมเพิ่มความเชื่อ เอาความรู้เพิ่มคุณธรรม เอาความเหนี่ยวรั้งตนเพิ่มความรู้ เอาขันตีพิ่มความเหนี่ยวรั้งตน และเอาธรรมเพิ่มขันตี เอาความรักฉันพี่น้องเพิ่มธรรม และเอาความรักคนทั่วไปเพิ่มความรักฉันพี่น้อง ถ้าท่านทั้งหลายเพียบพร้อมด้วยของประทานเหล่านี้แล้ว ก็จะกระทำให้ท่านเกิดประโยชน์ และเกิดผลที่ได้ซาบซึ้งในพระเยซูคริสต์ของเรา) พระเจ้าทรงต้องการให้เราเติบโตขึ้น ให้รู้ความจริงของพระองค์ทั้งหมด และเล่าความจริงนั้นด้วยใจรักในทุกเรื่อง พระบิดาในสวรรค์ทรงปรารถนาให้เราเป็นเหมือนพระคริสต์ ให้มีการแบ่งปันความรักและรับใช้อย่างถ่อมใจ การเติบโตฝ่ายวิญญาณมิได้เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ การที่เราจะเติบโตฝ่ายวิญญาณได้นั้นต้องมีการให้คำมั่นสัญญาว่าต้องการที่จะเติบโต ตกลงใจที่จะโต และเพียรพยายามที่จะเจริญเติบโตขึ้น


ต้นไม้เติบโตและผลิดอกออกผลจากธาตุอาหารและน้ำในดินที่หล่อเลี้ยงชีวิต ชีวิตฝ่ายวิญญาณจะเติบโตได้ก็ต้องมีอาหารไปหล่อเลี้ยงเช่นกัน อาหารฝ่ายวิญญาณก็คือพระคำของพระเจ้า เราจะได้อาหารไปหล่อเลี้ยงก็ต้องอ่านพระคัมภีร์ซึ่งเป็นแหล่งอาหารฝ่าย วิญญาณของเรา อาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตฝ่ายกายฉันใด พระคำของพระเจ้าก็เป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณฉันนั้น การศึกษาพระคำต้องทุ่มเทอย่างหนัก อย่ายอมให้มีสิ่งใดมาทำให้เราได้อาหารฝ่ายวิญญาณไม่เต็มที่ ขุดลึกเข้าไปให้ถึงแก่นแท้แห่งพระคำของพระเจ้าเหมือนดั่งต้นไม้ที่ใช้รากชอนไชหาน้ำและอาหารเพื่อการเจริญเติบโต เมื่อเรารู้พระคำอย่างแท้จริง เราก็จะได้ทั้งน้ำแห่งชีวิตและอาหารฝ่ายวิญญาณอย่างแน่นอนที่สุด หากเราให้อาหารแก่ชีวิตฝ่ายวิญญาณอย่างเต็มที่เต็มขนาด ชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราย่อมเติบโตและเกิดผลอย่างแน่นอน


ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือ ความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน (กาลาเทีย 5: 22-23)


สิธยา คูหาเสน่ห์